ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ‘AIMIRT’ ไฟเขียวโหวต 100%. อนุมัติการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ดันมูลค่าพอร์ตแตะ 13,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นกองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำ มั่นใจรายได้เติบโตต่อเนื่อง
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ‘AIMIRT’ อนุมัติการรองรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ มูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน2,600 ล้านบาท หนุนขนาดทรัพย์สินเพิ่มขึ้นแตะ 13,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นกองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำ โดยทรัพย์สินที่ลงทุนเพิ่มทั้งหมดเป็น Freehold 100% บนทำเลยุทธศาสตร์ EEC มั่นใจรายได้เติบโตมั่นคง พร้อมคาดการณ์ผลตอบแทนสูงขึ้น
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการรองรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ โดยผู้จัดการกองทรัสต์ได้เล็งเห็นโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมจากการเข้าลงทุนทรัพย์สินที่มีศักยภาพจากปัจจัยสนับสนุนที่เกี่ยวเนื่องกับสิทธิประโยชน์จากมาตรการยกเว้นภาษีและปรับลดค่าธรรมเนียมจากการแปลงสภาพ ด้วยการรับแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ซึ่งการรับแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ภายในปี 2567 จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ และได้รับการปรับลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในทรัพย์สินของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย โรงงานและคลังสินค้าจำนวน 90 ยูนิต รวมพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดประมาณ 143,900 ตารางเมตร มีมูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน2,600 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติม กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ จะมีขนาดทรัพย์สินเพิ่มขึ้นแตะ 13,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 20% โดยทรัพย์สินของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เป็นทรัพย์สินคุณภาพสูงที่มีศักยภาพและเป็นทรัพย์สินประเภทกรรมสิทธิ์ (Freehold) ทั้งหมด ตั้งอยู่ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 1 ปิ่นทอง 2 และปิ่นทอง 3 ในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ มีสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินประเภทFreehold สูงขึ้น และทรัพย์สินในพอร์ตมีการกระจายตัวที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ของทำเลที่ตั้งประเภทของทรัพย์สินและความหลากหลายของธุรกิจผู้เช่า ช่วยลดความเสี่ยงในการจัดหาประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์และสร้างความมั่นคงให้กับรายได้และผลประกอบการของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ได้ในระยะยาว
นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้จัดการกองทรัสต์จะดำเนินการออกหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนและส่งมอบหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ พร้อมเงินสดให้แก่กองทุนรวมอสังหาฯ PPF โดยกำหนดอัตราการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF กับหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ที่อัตรา 1 หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ต่อ0.8731 หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ พร้อมเงินสดจำนวน 0.7500 บาทต่อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ซึ่งการขยายฐานผู้ถือหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ จากการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เป็นหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ โดยไม่ต้องระดมทุนจากผู้ถือหน่วยทรัสต์ปัจจุบันของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ จะช่วยทำให้หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ มีเสถียรภาพและสภาพคล่องเพิ่มขึ้น
การแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นนวัตกรรมการลงทุนครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ เข้ารวมกับกองทรัสต์อิสระแล้ว ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ลงทุนเพิ่มเติมยังสนับสนุนให้กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงเป็นกองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำ พร้อมสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยอย่างต่อเนื่อง