บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO ผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม-แมส เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในวงการอาหารอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวโครงการ "The Flavorhood" ฟู้ดเดสติเนชันแห่งใหม่ ใจกลางประดิษฐ์มนูธรรม จุดหมายปลายทางแห่งความอร่อยบนพื้นที่กว่า 2 ไร่ รวมร้านอาหารเรือธงในเครืออย่าง MAGURO, HITORI SHABU และร้านอาหารแบรนด์ใหม่ ไว้ในที่เดียวกัน
นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO กล่าวว่า “หลังจากที่ MAGURO รวมถึงเป็น Food Destination ของหลายๆคนมาโดยตลอดตั้งแต่สาขาแรกที่ Chic Republic บางนา ที่สร้างปรากฏการณ์ร้านซูชิคิวยาวในย่านบางนา และต่อมาบริษัทฯไปขยายธุรกิจไปอีกหลายพื้นที่ และทำให้ร้านอาหารในเครือของบริษัทฯ ได้กลายเป็นขวัญใจคนในย่านนั้นๆ อาทิ The Circle ราชพฤกษ์ ที่มีกลุ่มลูกค้าในย่านธนบุรี และราชพฤกษ์ หรือสาขาแจ้งวัฒนะที่มีกลุ่มลูกค้าย่านแจ้งวัฒนะ หลักสี่ และปากเกร็ดเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวโครงการ "The Flavorhood" ใจกลางประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อเป็น Food Destination หรือศูนย์รวมแห่งรสชาติในไลฟ์สไตล์ทันสมัยของผู้บริโภค มีพื้นที่จอดรถที่สะดวกสบาย บรรยากาศที่เป็นกันเอง สามารถเข้าถึงอาหารอร่อยใกล้บ้าน”
บนพื้นที่โครงการกว่า 2 ไร่นี้ บริษัทฯ ได้นำ 3 ร้านอาหารในเครือมาไว้ในที่เดียวกัน คือ MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม, HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกี้ยากี้ หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และร้านอาหารแบรนด์ใหม่ ที่คาดว่าจะสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ไว้ในที่เดียวกัน พร้อมทั้งยังได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดมลพิษทางอากาศ และปรับอากาศให้บริสุทธิ์ขึ้น ด้วยสวนที่มีการตกแต่ง 2 สไตล์ แบบ Modern Tropical Garden ที่เน้นความสดชื่นของต้นไม้เขตร้อน และ Japanese Garden ที่ดูเรียบง่าย และสงบ เพื่อให้ทุกท่านที่มาเยือน รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ร่มรื่นและผ่อนคลาย
“โครงการ “The Flavorhood” เกิดจากการผสมผสานระหว่างคำว่า "Flavor" ที่สื่อถึงรสชาติอันหลากหลาย และคำว่า "Neighborhood" ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นพื้นที่แห่งชุมชนอันอบอุ่นและเข้าถึงได้ง่าย เป็นโครงการคอนเซ็ปต์ใหม่ ภายใต้ทำเลที่มีศักยภาพสูง ซึ่งนอกจากโครงการนี้จะช่วยเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่างจากร้านอาหารในเครือสาขาอื่นๆแล้ว บริษัทฯ ยังมีความตั้งใจให้โครงการนี้เป็นการดำเนินธุรกิจที่เล็งเห็นความสำคัญของความยั่งยืน โดยมีแผนการติดตั้งจุดชาร์จ EV Charger และ Solar Roof ภายในโครงการ รวมถึงจุดรีไซเคิลขยะพลาสติก และการแยกขยะอย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดผลกระทบต่อธรรมชาติอีกด้วย”
“นอกจากการขยายสาขาของแต่ละแบรนด์ เราได้เพิ่มกลยุทธ์การขยายสาขาในรูปแบบ Compound หรือแบบโครงการขนาดเล็ก จึงคาดว่าในอนาคตบริษัทฯ จะเปิดโครงการ The Flavorhood แห่งที่ 2 ใน Neighborhood ที่มีศักยภาพสูง เพื่อมอบพื้นที่แห่งความสุขและประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตามปรัชญา ‘Give More Culture’ หรือ ‘การให้มากกว่าที่ขอ’ ที่บริษัทฯ ใช้ในการบริหารธุรกิจมาโดยตลอด และสร้างเอกลักษณ์ให้กับเครือ MAGURO ได้อย่างแน่นอน” นายเอกฤกษ์ กล่าวปิดท้าย