แนวโน้มตลาดวันนี้ (8 ส.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ช่วงแรก ได้ปัจจัยหนุนคลายกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด หนุนดัชนีปรับตัวขึ้น โดยมีแนวต้านที่ 1305 และ 1310 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดกรอบบนถูกจำกัด จากแรงขายก่อนหยุดยาว และรอติดตามคำวินิจฉัยคดีนายกฯ ในวันพุธหน้า ด้านแนวรับอยู่ที่ 1286 และ 1280 จุด
ประเด็นสำคัญ
• ThaiBMA เผยกระแสเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรช่วง 2 สัปดาห์ มูลค่า 6.38 หมื่นลบ. มองแนวโน้มเงินทุนยังทยอยไหลเข้า ปัจจัยพื้นฐานไทยไม่เปลี่ยน คาดปลายปีนี้จะสามารถพลิกเป็นซื้อสุทธิหลักหมื่นลบ. ได้
• ททท. เผยช่วงวันแม่แห่งชาติซึ่งหยุดติดต่อกัน 3 วัน (10-12 ส.ค. 2024) คาดมีชาวไทยเที่ยว 2.6 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 9.4 พันลบ. เติบโตน้อยกว่าวันหยุดยาวในเดือนก.ค. เนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย
• คลังเตรียมเปิดรับฟังความเห็นจากนักลงทุนทั่วไปทั้งสถาบันและรายย่อย กรณีจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนวายุภักษ์เพิ่มในปลายปีนี้ วงเงิน 1.0-1.5 แสนลบ. เพิ่มจากกองทุนเดิมที่มีมูลค่า 3.5 แสนลบ. ขายหน่วยละ 10 บาท และการันตีผลตอบแทนสูงเทียบเท่าพันธบัตร 10 ปี
• กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตลาดคาด ช่วยให้นักลงทุนคลายความความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน
• โตโยต้าลดเป้าการผลิตครั้งแรกในรอบ 4 ปีหลังเกิดปัญหาอื้อฉาวในการทดสอบคุณภาพยานยนต์ ส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตบางส่วน ส่วนกำไรสุทธิ 1Q24FY (เม.ย.-มิ.ย. 67) ของฮอนด้าขยายตัว 8.7% อานิสงส์ยอดขายรถยนต์ Hybrid ในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น
• BOI เห็นชอบส่งเสริมลงทุนกิจการดาต้าเซ็นเตอร์จากฮ่องกงมูลค่ากว่า 2.5 พันลบ. ตั้งในเขตอุตฯ นวนคร, มาตรการส่งเสริมการร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยและต่างชาติในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และมาตรการส่งเสริมกิจการขนส่งทางอากาศรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
• 2Q24 Berkshire Hathaway ถือครองพันธบัตรระยะสั้นสหรัฐฯ 2.35 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 81%YoY และถือครองสูงกว่าเฟดที่ 1.95 แสนล้านดอลลาร์ ประกอบกับช่วงก่อนที่ทยอยลดสถานะถือครองหุ้นอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET จะปรับลงตามตลาดหุ้นโลก เนื่องจากกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ และต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นซึ่งอาจส่งผลต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้ อย่างไรก็ดีมอง SET ยังมีโอกาสปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก จากการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 2Q67 ของบจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น และเริ่มเห็น Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น ซึ่งคาดไทยมีแนวโน้มจะได้รับกระแสเงินนี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
AOT: มองกำไรยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นสอดคล้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่เติบโต โดยประเมินกําไรปกติ 3QFY67 (เม.ย.-มิ.ย. 2567) ที่ 4.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 48%YoY แต่ลดลง 18%QoQ สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ 17.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27%YoY แต่ลดลง 11%QoQ คิดเป็น 90% ของระดับก่อนเกิด COVID-19 ทั้งนี้วันนี้แนะนำราคาซื้อไม่เกิน 57.00 บาท
DELTA: 2H67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ยังคงเติบโตดี อีกทั้งยังมี Upside จากการพัฒนาและการขายผลิตภัณฑ์ Power Supply ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่พัฒนาโดย DELTA Thailand เอง ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องจ่ายค่า technical fee ให้กับทาง DELTA Taiwan ทั้งนี้วันนี้แนะนำราคาซื้อไม่เกิน 100.50 บาท