หุ้นไทยวันนี้ ยังผวาปัจจัยเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย รอฟังประธานเฟดในวันพรุ่งนี้ และประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางเยือนอิสราเอลกดดันบรรยากาศทั่วโลก ระวังมีแรงเทขาย
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (18 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET กลับมาปรับตัวลงจากความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐสูงกว่าคาด รวมถึงนักลงทุนรอถ้อยแถลงประธานเฟดในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ย ทำให้คาดเกิดแรงขายลดความเสี่ยง ด้านแนวรับอยู่ที่ 1425 และ 1411 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1440 และ 1450 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• จับตาประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางเยือนอิสราเอลในวันนี้ต่อประเด็นความไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่ผู้นำชาติอาหรับ (จอร์แดน อียิปต์และปาเลสไตน์) ยกเลิกการประชุมร่วมกับ ประธานาธืบดีสหรัฐในวันเดียวกัน
• ยอดค้าปลีก ก.ย. สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.7%MoM สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.3% ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตร10 ปีสหรัฐเร่งตัวขึ้น 13 bps ผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ปี 2549
• หุ้นเซมิตอนดัคเตอร์ในสหรัฐถูกเทขาย กดดันจาก Bond Yield ที่พุ่งขึ้น และรัฐบาลสหรัฐเพิ่มความเข้มงวดในการขายชิปไปยังตลาดจีน
• ตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกหดตัวลง 8% ใน 3Q66 ทำระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีเนื่องจากอุปสงค์ซบเซาลงสำหรับสมาร์ตโฟนแบรนด์หลัก ซึ่งรวมถึง Apple และSamsung ในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว
• ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเยอรมนี ต.ค. ปรับขึ้นสู่ระดับ -1.1 สูงกว่าคาด จากการคลายความวิตกเงินเฟ้อ นับเป็นการดีดตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ส่งสัญญาณเชื่อมั่น ศก. จะปรับดีขึ้นใน 6 เดือนข้างหน้า
• ธปท. ระบุอัตราเข้าพักโดยเฉลี่ย ก.ย. 66 อยู่ที่ 46% ลดลง MoM จากการปิดภาคเรียนบางประเภทสิ้นสุดลง ทำให้จำนวนนักลงทุนต่างชาติลดลง และคาดอัตราเข้าพักต.ค. 66 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 48.9%
• ส.อ.ท. ระบุขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในอิสราเอล แต่หากขยายวงกว้างไปยังตะวันออกกลางจะส่งผล กระทบต่อการส่งออกยานยนต์ในช่วงปลายปีนี้ โดยรถยนต์เป็นสินค้าส่งออกของไทยไปยังอิสราเอลเป็นอันดับ 1 ขณะที่การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางคิดเป็น 16% ของการส่งออกรถยนต์รวม
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้ โดยแม้ตลาดจะยังกังวลภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในอิสราเอล แต่ยังได้แรงหนุนจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาหนุนยุติปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐชะลอลงและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า (เงินบาทกลับมาแข็งค่า) อีกทั้งยังมีความคาดหวังจากจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม 1 ล้านล้านหยวน และคาดยังมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยหนุนดัชนี กลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น “โอกาสซื้อลงทุน”
โฟกัสหุ้นวันนี้
TOP มุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 3Q66 จากค่าการกลั่นฟื้นตัวแรง และคาดบันทึกกำไรจากสต็อกสูงตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นระหว่างไตรมาส market GRM YTD เฉลี่ย 7.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้จะอ่อนตัว YoY แต่ยังดีกว่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนเกิดCovid-19 ที่ 6.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
CRC แม้ 3Q66 คาดกำไรลดลง YoY จากยอดขายธุรกิจค้าปลีกที่ชะลอตัว แต่จะฟื้นตัวสู่ระดับที่ดีที่สุดของปีนี้ใน 4Q66 จากปัจจัยฤดูกาล ยอดขายธุรกิจค้าปลีกที่ดีขึ้น และค่าไฟฟ้าที่ลดลง ขณะที่การเปิดตัวธุรกิจค้าส่งอาหาร “Go Wholesale” คาดมีผลกระทบจำกัดต่อกำไร