ทิศทางตลาดหุ้น คาด SET ยังดูมี downside ตลาดไร้ปัจจัยบวกในประเทศ แบงก์ทะยอยเปิดงบกำไร ฝั่งเศรษฐกิจจีนออกมาไม่สดใส ความไม่แน่นอนการลดดอกเบี้ยของเฟด เแนะหุ้น TOP HANA
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (19 ม.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET มีเพียงการดีดสลับในระยะสั้น แต่ยังไม่แสดงสัญญาณการกลับตัว รวมถึงตลาดยังขาดปัจจัยหนุน ทำให้การฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1387 และ 1402 จุด ตามลำดับ ขณะที่ดัชนียังดูมี downside ต่อการปรับตัวลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1370 และ 1360 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐลดลงสู่ 1.87 แสนราย ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง อาจทำให้ Fed ตรึงดบ. ระดับสูงนานกว่าที่คาด
• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าตลาดคาด ขณะที่ IEA และกลุ่มโอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้
• ราฟาเอล บอสติก ประธาน Fed สาขาแอตแลนตา คาด Fed จะเริ่มปรับลด ดบ. ใน3Q67 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังกลับสู่เป้าหมายของ Fed ที่ระดับ 2%
• Maersk คาดการขนส่งในทะเลแดงหยุดชะงัก 2-3 เดือน หลังสหรัฐโจมตีฐานที่มั่นกบฏฮูตีในเยเมนระลอกใหม่ ทางด้าน สรท. ระบุหากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจทำให้ค่าระวางเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางไทยไปยุโรปอาจสูงถึง 3,000-5,000 ดอลลาร์ต่อตู้ผู้ประกอบการจำต้องแบกต้นทุนเพิ่มเพราะขึ้นราคาสินค้าไม่ได้
• ธปท. ระบุเร่งเดินหน้าตั้ง Virtual Bank โดยส่งร่างหลักเกณฑ์การจัดตั้ง ธ. ไร้สาขาให้ก. คลังพิจารณา คาด 1Q67 ออกประกาศคุณสมบัติและเปิดรับสมัครผู้ให้บริการได้และจะเริ่มให้บริการได้ภายในปี 2569 เอื้อ ปชช. เข้าถึงบริการทางการเงินทั่วถึง
• ก. อุตสาหกรรมระบุสำรวจพบแร่ลิเทียม 14.8 ล้านตัน สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก(รองจากโบลิเวียและอาร์เจนตินา) ซึ่งเป็นแร่หลักในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า100% หนุนไทยเดินหน้าเป็นศูนย์กลาง-ฐานการผลิตแบตเตอรี่ EV ในภูมิภาค
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจจีน (GDP 4Q66) ออกมายังไม่สดใส รวมทั้งความไม่แน่นอนในเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี ความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนคาดจะช่วยลดแรงกดดันลงได้บ้าง ภายใต้ในประเทศที่ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
TOP 4Q66 คาดกำไรสุทธิ 2.7 พันลบ. ดีขึ้นมาก YoY หนุนปี 2566 กำไรสุทธิจะดีกว่าตลาดและเราคาด แนวโน้มกำไรปี 2567 ยังแข็งแกร่ง หนุนจาก market GRM และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ PX ที่ดี อีกทั้ง Valuation ปัจจุบัน PBV ปี 67 ที่ 0.6x (-1.6SD ค่าเฉลี่ย 5 ปี) คาด Div. Yield ราว 6%
HANA คาดได้ sentiment บวกจากหุ้นกลุ่ม Tech ในตลาดโลก หลังงบฯ TSMC ดีกว่าคาด ส่วนปี 67 คาดผลประกอบการ HANA ปรับตัวดีขึ้น หลังมีการเร่งลงทุนในธุรกิจใหม่อย่าง Silicon Carbide และการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อของ RFID tag ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกิน 50 บ.