แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (25 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ และคาดนักลงทุนในตลาดยังขายหุ้นออกมาลดความเสี่ยง เพื่อติดตามสถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งปธน.สหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. นี้ รวมถึงทิศทางเงินบาทที่ยังอ่อนค่าเป็นลบต่อทิศทาง Fund Flow ทำให้กรอบบนของ SET ถูกจำกัดที่แนวต้าน 1475-1485 จุด และยังมีความเสี่ยงด้าน Downside โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1450 และ 1440 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์ ก.ย. 67 อยู่ที่ 122,277คัน ปรับลง 25.48%YoY จากการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 15.78%YoY อยู่ที่ 87,666 คัน และการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 42.31%YoY อยู่ที่ 34,611คัน พร้อมเตรียมปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 1.7 ล้านคัน
• IMF ออกเตือนความตึงเครียดด้านการค้าและภาษีระหว่างสหรัฐฯ EU และจีนที่รุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบลุกลามทั่วโลกและเป็นผลเสียต่อทุกฝ่าย เช่น ผลผลิตทั่วโลกจะต่ำลงและกดดันต่อเงินเฟ้อ
• Bloomberg รายงานว่ากลุ่มนักวิเคราะห์คาด BoJ จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ต.ค. นี้ และมีความเป็นไปได้น้อยมากที่ BoJ จะส่งสัญญาณเนื่องจากต้องจับตาดูการเลือกตั้งปธน. สหรัฐฯ ในวันที่ 5พ.ย. นี้
• รมว. พลังงานเผยไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์การประมูลรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟสสอง 3,600MW ของ กกพ. เนื่องจากมีความเสี่ยงถูกมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ และได้ส่งหนังสือทักท้วงต่อ กกพ. แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการแก้ไขราว 1 เดือน
• สหรัฐฯ เผยยอดขายบ้านใหม่ ก.ย. ปรับขึ้น 4.1%MoM สู่ระดับ 738,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 66 และสูงกว่าตลาดคาด ส่วนตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ก่อนลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 227,000 ราย ต่ำกว่าตลาดคาดคาด
• ราคาหุ้นโบอิ้งปรับลง 1.18% วานนี้หลังช่างเครื่องของโบอิ้งลงมติคัดค้านข้อตกลงฉบับใหม่ที่บริษัทเสนอให้ปรับขึ้นเงินเดือน 35% ในระยะเวลา 4 ปี และได้ขยายเวลาผละงานประท้วงออกไปอีก ขณะที่ราคาหุ้น IBM ปรับลง 6.17% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาด
Daily top picks
AMATA: ปี 2567 มองมีโอกาสทำยอดขายที่ดินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ต่ำกว่า 2,500 ไร่ เติบโต 35%YoY ขณะที่ 3Q67 คาดมีกำไรสุทธิโดดเด่นที่ 812 ลบ. เติบโต 105.2%YoY และ 251.4%QoQ และคาดจะเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ ใน 4Q67 หนุนให้ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 2,399 ลบ. เติบโต 27.3%YoY ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกิน 27 บาท
MINT: แม้ 3Q67 คาดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจะกดดันให้กำไรสุทธิลดลง 85%YoY แต่ประเมินมีกำไรปกติแข็งแกร่งที่ 2.7 พันลบ. เพิ่มขึ้น 18%YoY แรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งขึ้นและ EBITDA Margin ที่ดีขึ้น อีกทั้งมอง Risk/reward น่าสนใจ หลังราคาหุ้นลดลง 4% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้เทรด PER 2568F ระดับ 24 เท่า (-1SD)
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัว Sideway โดยแม้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาแถว 1500 จุดหลัง กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และคาดยังมีแรงส่งต่อเนื่อง รวมไปถึงยังมองมีปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะผลประกอบการของ บจ. ในสหรัฐ ที่คาดจะออกมาแข็งแกร่งกว่าตลาดคาด สืบเนื่องจากมีความคาดหวังต่ำ แต่มอง SET จะมี Upside จำกัด หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงติดตามผลประกอบการ 3Q67 ของ บจ. ไทยกลุ่ม Real Sector และยังรอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ และหากพิจารณาในตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศสัปดาห์หน้า อาทิ ตัวเลขอสังหาริมทรัพย์และดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐมองยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”