‘กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค’ ล็อคเป้ารายได้ปี 67 แตะ 1,200 ลบ. เน้นกลยุทธ์ Synergy Growth เสริมแกร่งธุรกิจทุกมิติ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ขยายโอกาสทางธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแรง
นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้ารายได้ปี 2567 จะแตะที่ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวมปี 2566 ที่อยู่ที่ 1,087.93 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนที่จะสร้างการเติบโตในระยะยาวให้กับธุรกิจอย่างมั่นคง ด้วยกลยุทธ์ Synergy Growth ขยายโอกาสในการพัฒนาสินค้าร่วมกันกับพันธมิตร หรือแบรนด์สินค้าในระดับสากลเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็น AI, big data, clean energy และ EV เป็นต้น เพื่อยกระดับการเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย การผลิต และการขนส่งสินค้า การเพิ่มเครือข่ายร้านค้า และตัวแทนจำหน่ายให้มากกว่า 1,000 รายจากในปัจุจบันที่อยู่ที่ 800 ราย การขยายเครือข่ายช่างไฟฟ้า ผู้รับเหมา และวิศวกรทั่วประเทศเป็นมากกว่า 10,000 รายจากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 5,000 ราย การขยายธุรกิจภายในประเทศผ่านการเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ “Authorized General Distributor (Tier 1)” ในทุกประเภทผลิตภัณฑ์ของ “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค” (Schneider Electric) ผู้นำอุปกรณ์ และงานระบบไฟฟ้า และพลังงานสะอาดระดับโลก เป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และยังเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย
ในขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังผลิตด้วยเทคโนโลยี และประสิทธิภาพสูงเป็น 40 ล้านชิ้นต่อปี จากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 30 ล้านชิ้นต่อปี สามารถผลิตสินค้าพร้อมส่งมอบได้มากกว่า 1,200 SKUs จากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 700 SKUs การเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าเป็น 4,000 ตารางเมตร จากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 2,800 ตารางเมตร รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรด้านการขนส่งเพื่อเสริมศักยภาพในการขนส่งสินค้าให้สูงขึ้น 25% ทั้งในเรื่องของปริมาณการขนส่งสินค้าที่มากขึ้น และระยะเวลาขนส่งสินค้าที่รวดเร็วขึ้น โดยบริษัทตั้งงบลงทุนต่อเนื่องภายในปี 2567, 2568 และ 2569 จำนวน 200 ล้านบาท 150 ล้านบาท และ 80 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถรองรับการเติบโตของรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 10-15% ต่อปี รวมถึงบริษัทยังได้มีการลงทุนในอาคารศูนย์นวัตกรรม KJL Innovation Campus หรือ KiN ที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ที่ทันสมัย เข้าถึงอุตสาหกรรมใหม่ ๆ โดยมีการจัดทำ Metal Design Lab และ Metal Total Solution พร้อมทั้งสร้าง Brand Experience รวมไปถึงสร้างโอกาสการได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งนี้อาคารดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2568
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 บริษัทฯมีรายได้รวม 284.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.87 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 18.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 239.63 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 9.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 3.63% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 274.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.96 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2.85% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 33.65 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 3.93 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 12.82% จากไตรมาสก่อนหน้าที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 30.69 ล้านบาท