บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล “SEI” เดินหน้ายื่นคำขอ Filing ต่อ ก.ล.ต. เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 50 ล้านหุ้น จ่อระดมทุนในตลาด mai สยายปีก ขยายธุรกิจเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ พร้อมร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตั้ง บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) “SEI” หนึ่งในผู้นำการจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ 69-1) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 29.41% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมี บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทมีวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ สั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้จะนำเงินระดมทุนไปใช้ในโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ หรือลงทุนด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ส่งเสริมธุรกิจของบริษัทฯ
“เอสอีไอ เมดิคัล” มีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 60 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 120 ล้านหุ้น มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่าง ๆ (หากกำหนดไว้ และหากมี) ภายใต้การดำเนินธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งบริษัทฯ จัดหาสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ของผู้ผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ โดยการจัดซื้อจากตัวแทนของผู้ผลิตในประเทศ และนำเข้าโดยตรงจากผู้ผลิตในต่างประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่ โรงพยาบาลรัฐบาล สถาบันการศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลของเอกชน คลินิก รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศ” นายกานต์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิตทั้งหมด 17 ราย จาก 11 ประเทศ โดยได้จดทะเบียนสถานประกอบการนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ในประเทศไทย
กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สังกัดกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งสามารถแบ่งเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยา ศาสตร์ ที่บริษัทฯจำหน่ายออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) 2. กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วย ทารกแรกเกิด (Neonatal Care) 3. กลุ่มสินค้าด้านความงาม (Aesthetic) 4.กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด (Surgery) 5. กลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory)
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการต่างๆ แบบครบวงจร อาทิ บริการซ่อมบำรุงเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ (Maintenance Service) เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจัดสอนวิธีการใช้งานเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานสินค้า และสามารถใช้ประโยชน์จากสินค้าได้อย่างเหมาะสม
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2563 - 2565 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 376.76 ล้านบาท 374.00 ล้านบาท 320.55 ล้านบาท และ 306.06 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิปี 2563 - 2565 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 4.67 ล้านบาท 16.21 ล้านบาท 17.86 ล้านบาท และ 21.56 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 1.24% 4.28% 5.54% และ 7.04% ของรายได้รวม ตามลำดับ
โดยกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนรายได้จากการขายมากที่สุดตามลำดับคือ 1. กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ มีสัดส่วนรายได้ 40.24% - 52.61% 2. กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด มีสัดส่วนรายได้ 36.37% - 48.54% 3. กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด มีสัดส่วนรายได้ 4.83% -5.85% 4. กลุ่มสินค้าด้านความงาม มีสัดส่วนรายได้ 3.09% - 4.89% และ 5. กลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ มีสัดส่วนรายได้ 1.35% - 4.32%
อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพความเชี่ยวชาญการจัดจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ที่ยาวนานกว่า 30 ปี รวมถึง การให้บริการติดตั้ง ซ่อมบำรุง ตลอดจนการให้บริการหลังการขาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ทำให้มีฐานลูกค้าทั่วประเทศ และลูกค้ามีโอกาสในการสั่งซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ซ้ำ เพื่อทดแทนเครื่องมือทางการแพทย์ที่หมดอายุการใช้งาน ส่งผลให้ SEI ได้รับความไว้วางใจในการจําหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต และได้รับการต่ออายุสัญญาแต่งตั้งเป็นตัวแทนจําหน่าย (Distributor Agreement) จากผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี ดังนั้นด้วยความสามารถและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของบริษัทฯ ประกอบกับความเชื่อมั่นจากผู้ผลิต และลูกค้า จึงตอกย้ำถึงศักยภาพการแข่งขันที่จะก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย