"บี-52แคปปิตอล" เพิ่มทุนอีก 2 เท่าตัว จากทุนจดทะเบียน 368.67 ล้านบาท เป็น 1,239.27 ล้านบาท ออกหุ้นเพิ่มทุน 1,741.20 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 1.61698 หุ้น ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 0.33 บาท ขาย PP 304 ล้านหุ้น และรองรับวอร์แรนท์ชุด 4 ที่จะแจกฟรีให้ผู้ถือหุ้นที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 760 ล้านหุ้น
นางสาวนราวดี วรวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี-52แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B-52 รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัท มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 870.60 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 368.67 ล้านบาท เป็น 1,239.27 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 1,741.20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 456 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 1.61698 หุ้น ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 0.33 บาท กำหนดวัน Record Date เพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567
จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 304 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด 2 ราย ได้แก่ นายพิศิษฐ์ ภูสนาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิลล่า มาร์เก็ท เจพี จำกัด จำนวน 152 ล้านหุ้น และดร.อับราฮัม กุมาร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โพรต้าเทค อิ๊งค์ จำกัด จำนวน 152 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.33 บาท
จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 221.20 ล้านหุ้น รองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป
จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 760 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัทรุ่นที่ 4 (B52-W4)
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติการออกและการจัดสรรเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัท รุ่นที่ 4 (B52-W4) จำนวนไม่เกิน 760 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน และแก่บุคคลในวงจำกัด 2 ราย ที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยไม่คิดมูลค่าในอัตราส่วน 1.9701939329 ของหุ้นสามัญเดิม กำหนดวัน Record Date เพิ่อให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จะได้รับการจัดสรรวอร์แรนท์ วันที่ 6 ธันวาคม 2567 กำหนดอัตราแปลงสภาพที่ 1 วอร์แรนท์ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคา 0.50 บาท
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน บริษัทจะนำมาใช้ในการดำเนินกิจการของบริษัท เป็นเงินทุนในการขยายและพัฒนาธุรกิจในปัจจุบันของบริษัท การลงทุนในธุรกิจใหม่ต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท ในธุรกิจที่มีศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งเป็นใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการต่างๆ ของบริษัทด้วย และทำให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนที่มีความพร้อมสำหรับการลงทุนหรือการขยายธุรกิจในอนาคต