บมจ. ดีโอดี ไบโอเทค ประกาศงบไตรมาส 1/67 รายได้พุ่ง 45.25% แตะ 170.54 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย “ออสเวลไลฟ์” เต็มไตรมาส ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 36.06% ดันกำไรเพิ่มขึ้น 101.39% จับตาผลงานไตรมาส 2/67 ส่อแววโตกระโดด หลังลูกค้าจ่อคิวจ้างผลิตต่อเนื่อง
นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมที่ 170.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 117.41 ล้านบาท โดยหลักๆ มาจากการรับรู้รายได้จากการขายของบริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ซึ่ง DOD ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 89.29 ของหุ้นทั้งหมด เข้ามาเต็มไตรมาส (ไตรมาส 1/2566 มีการรับรู้รายได้จาก AWL ปลายไตรมาส)
อีกทั้ง งานรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยมีลูกค้าใหม่ๆ ที่เข้ามาจ้างให้ DOD เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ทำให้ฐานลูกค้าของบริษัทฯ มีความหลากหลายมากกว่าที่ผ่านมา อันนำไปสู่การมีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องในอนาคต
ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ที่เพิ่มขึ้นเป็น 36.06% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 29.96% เนื่องจากการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง และมองว่าในอนาคตอัตรากำไรขั้นต้น จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการออกสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเองเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ด้วยการทำสื่อในการโฆษณาโปรโมทแบรนด์สินค้าของตนเอง ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายในไตรมาส 1/2567 ที่ 23.90 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 104.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และระหว่างงวดมีการปรับโครงสร้างองค์กรโดยการลดจำนวนพนักงานทำให้มีการจ่ายค่าชดเชย จำนวนกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (One Time Expenses) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงพลิกมามีกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 0.25 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 17.93 ล้านบาท
สำหรับในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ ได้มีการเซ็นสัญญารับจ้างผลิตสินค้าใหม่ๆ เพิ่มประมาณ 15 SKU (ออกสินค้าใหม่ 5 SKU ต่อเดือน) ขณะที่ในไตรมาสนี้บริษัทฯ ยังได้มีการขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มที่ส่งสินค้าออกไปขายในต่างประเทศด้วย ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เริ่มผลิตสินค้าให้กับลูกค้าเพื่อส่งออกไปขายในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการกระจายฐานของกลุ่มลูกค้า และเชื่อว่าในอนาคตลูกค้ากลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารเสริมที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะด้านราคา ซึ่งก็อาจจะส่งผลกระทบให้คุณภาพของสินค้าลดลงอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ แต่สำหรับ DOD มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า และให้ราคาที่สามารถแข่งขันได้ แต่ไม่ยอมลดคุณภาพของสินค้า ทำให้สินค้าที่ DOD ผลิตนั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค มีการกลับมาซื้อซ้ำ ส่งผลให้แบรนด์ของลูกค้ามีการเติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถออกสินค้าใหม่ให้แก่ลูกค้าได้ เพราะบริษัทมีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่มีคุณภาพในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในส่วนของสารสกัดใหม่ๆ ที่อยู่ในกระแส และปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นายต่อลาภ กล่าวอีกว่า ทิศทางการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2567 จะดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 1/2567 เพราะบริษัทฯ สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น ลูกค้าในกลุ่มคลีนิคเสริมความงาม ท็อปเซลบนแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก เป็นต้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงคาดว่าในไตรมาส 2/2567 ผลการดำเนินงานจะเติบโตแบบก้าวกระโดดได้