แนวโน้มตลาดวันนี้ (27 ส.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ปรับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมเป็นบวก และเรากลับมามีมุมมองที่ดีต่อดัชนี จากแรงส่งการลดดอกเบี้ยของเฟดทิศทาง fund flow ไหลเข้า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระเทศ เป็นปัจจัยหนุนต่อภาพการไต่ระดับปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1372 และ 1380 จุด ขณะที่ระยะสั้น อาจมีการย่อสลับลดความร้อนแรงบ้าง โดยมีแนวรับ 1350-1355 จุด ใช้เป็นจุดรองรับ
ประเด็นสำคัญ
• รักษาการรองนายกฯ และรมว. คลังเผยการเสนอขายกองทุนวายุภักษ์อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเสนอขายหน่วยกองทุนกับสถาบันการเงิน โดยคาดจะสามารถเสนอขายได้ช่วงปลายเดือนก.ย. หรือต้นเดือนต.ค.
• รัฐบาลลิเบียตะวันออกประกาศระงับการผลิตและการส่งออกน้ำมัน หลังมีความขัดแย้งกับรัฐบาลลิเบียเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าฝ่ายใดควรมีอำนาจคุมธนาคารกลางลิเบีย ทำให้ตลาดกังวลกระทบอุปทาน โดยลิเบียผลิตน้ำมันอยู่ที่ 1.18 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ค.
• World Bank คาดปีนี้เศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโต 6.1% จากส่งออก ท่องเที่ยว การบริโภคและการลงทุน ส่วนปี 2568-69 จะขยายตัว 6.5% โดยพัฒนาการในตลาดทุนจะเป็นแหล่งเงินทุนในระยะยาวและช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าในการเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2588
• BOI เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่เคาะแผนลงทุนเชิงรุกเซมิคอนดักเตอร์และแบตเตอรี่ โดยเสนอตั้งเซมิคอนดักเตอร์บอร์ดหวังดึงลงทุนเต็มที่ เผยอิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำแห่ลงทุนไทยใน 1-2 ปีข้างหน้า ล่าสุด บจ. เวสเทิร์น ดิจิตอล ขยายลงทุน 2.3 หมื่นลบ. ฐานผลิตฮาร์ดดิสก์
• ปปง., ก.ล.ต., ตลท. ยกระดับความร่วมมือป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น หวังการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำตัวคนทำผิดในตลาดหุ้นมาลงโทษได้รวดเร็วขึ้นเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
• คลังเดินหน้าแฮร์คัทหนี้ช่วยประชาชน เตรียมเรียกธพ. หารือ สศช. แนะแฮร์คัทเฉพาะกลุ่ม ห่วงปัญหา Moral Hazard ธปท. ชี้เร็วเกินไปที่จะสรุปประเด็นลดส่งเงิน FIDF และ 1Q67 พบหนี้เสียครัวเรือนลดลงหลังเข้มปล่อยสินเชื่อ
• PBOC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีที่ 2.3% จากในเดือนก.ค. ที่ได้ปรับลงไป 20bps และรายงานว่าได้ระบายเงินสดออกจากระบบธนาคารแล้วราว 1.01 แสนล้านหยวนในเดือนก.ค.
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway Up จากคาดหวังความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อความชัดเจนของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลาย 3Q-4Q67 ส่วน Fund Flow มองว่ายังมีทิศทางไหลเข้าตลาดหุ้นไทยแต่ไม่แรง เนื่องจากภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างไรก็ดี มองเม็ดเงินลงทุนจะมีแนวโน้มไหลออกจากกลุ่มพลังงาน สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ เข้าสู่กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และการแพทย์ ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐคาดยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในระยะถัดไป และดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนคาดยังอ่อนแอ ซึ่งมองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วในระดับนึง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top picks
BDMS: เป็นหุ้นเด่นกลุ่มการแพทย์และกำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H67 โดย 3Q67 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และเติบโต QoQ จากเข้าสู่ High Season ขณะที่ทั้งปี 2567 คาดมีกําไรปกติเติบโต 13%YoY สู่ 1.6 หมื่น ลบ. อีกทั้ง valuation ยังอยู่ในระดับต่ำที่ PER 67F ระดับ 27 เท่า หรือต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต
PTTEP: มองราคาหุ้นยังคงปรับขึ้นช้ากว่าราคาน้ำมัน (PTTEP -3.7%YTD, Brent +5.7%YTD) และเป็นหุ้นที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากกรณีกังวลความไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่ผลการดำเนินงานและงบดุลของบริษัทยังแข็งแกร่ง โดยปี 2567 คาดมีกำไรปกติ 8.27 หมื่นลบ. เติบโต 5%YoY ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อวันนี้ไม่เกิน 144 บาท