แนวโน้มตลาดวันนี้ (29 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และคาด Fund Flow ยังไหลออก รวมถึงนักลงทุนในตลาดรอดูตัวเลข GDP สหรัฐใน Q3 และตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ด้านแนวโน้มราคายังอ่อนแรงปรับลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1450 และ 1440 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1460-1470 จุด
ประเด็นสำคัญ
• วันนี้ติดตามคลังและธปท. ถกกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2568 คาดอยู่ในกรอบ 1.5 -3.5% หวังให้ ธปท.มีช่องลดดอกเบี้ยนโยบายได้มากขึ้น
• AOT เผยปริมาณจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งปีงบประมาณ 67 (ต.ค.66-ก.ย.67) ว่ามีผู้โดยสารใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่ม 19.2%YoY แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่ม 34.8% และในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่ม 1.0%
• กระทรวงพาณิชย์เผยในเดือนก.ย.มีมูลค่าส่งออก 25,983 ล้านดอลลาร์ +1.1%YoY จากตลาดคาด +3% ส่วนมูลค่านำเข้า 25,589 ล้านดอลลาร์ +9.9% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 394 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการเกินดุลการค้าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
• สัปดาห์นี้จับตาบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูงในสหรัฐฯ (Mag7) ซึ่ง 5 ใน 7 ของบริษัทกลุ่มนี้จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ Alphabet, Meta Platforms, Apple, Microsoft และ Amazon.com
• วานนี้กระทรวงพาณิชย์จีนส่งสัญญาณเตือน EU อีกครั้ง ระบุว่าหาก EU พยายามเจรจาแยกต่างหากกับบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในระหว่างที่กำลังเจรจากับรัฐบาลจีนอยู่นั้น จะถือเป็นการทำลายความเชื่อใจและกระทบต่อการเจรจาในภาพรวม
• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรม ก.ย. หดตัว 27.1% ลดลงรุนแรงที่สุดในปีนี้ สะท้อนภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังอ่อนแอและอาจทำให้รัฐบาลจีนต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
• กกร. ยื่นสมุดปกขาว 4 ข้อให้ นายกฯ พิจารณาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยสินเชื่อ SMEs บริหารจัดการน้ำท่วม-ภัยแล้ง และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เชื่อรัฐบาลดัน GDP โต 5%
Dialy top picks
BBL: เป็นหุ้นที่เราแนะนำซื้อเพียงตัวเดียวในกลุ่มธนาคาร โดยมองมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก 1) Valuation ถูกที่สุดในกลุ่มธนาคาร 2) Credit Cost มีแนวโน้มปรับตัวลดลง พร้อมกับมี Upside จาก THAI 3) สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม 4) มี Upside สำหรับ NIM และ 5) มีความเป็นไปได้สูงหรือมี Upside ที่จะปรับอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
TASCO: เป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับตัวลง ขณะที่ 3Q67 คาดกำไรปกติเติบโตเด่นทั้ง YoY และ QoQ แรงหนุนจากปริมาณขายยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นหลังมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐ (อาทิ กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท) ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2567 อีกทั้งราคายางมะตอยทั้งในประเทศและต่างประเทศยังปรับตัวเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัว Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการ 3Q67 ของ บจ. ทั้งสหรัฐและไทย ที่คาดจะมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น และคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แต่คาด SET จะยังมี Upside จำกัด โดยมีแนวต้าน 1500 จุด เนื่องจากมองว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะส่งผลให้มีแรงกดดันต่อ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาในตลาด EM อีกทั้งตลาดยังอยู่ในช่วงปรับความคาดหวังว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ทำให้ช่วงสั้นต้องระวังหุ้นที่ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยลงซึ่งราคาปรับตัวขึ้นมาสะท้อนความคาดหวังแล้ว รวมทั้งหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า อาทิ DELTA GULF ADVANC INTUCH เนื่องจากมองตลาดอยู่ในช่วง Rebalance ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”