Market

InnovestX คาด SET มีลุ้น fund flow ช่วยหนุนไปต่อ
5 ก.ย. 2567

แนวโน้มตลาดวันนี้ (5ก.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET  มีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้าน 1370-1372 จุด จากปัจจัยหนุนความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่มองเงินบาทที่เริ่มกลับมาแข็งค่า ทำให้มีโอกาส fund flow ไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง ช่วยหนุนดัชนี ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่าน 1372 จุด จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1355-1360 จุด คาดยังรองรับได้

 

ประเด็นสำคัญ

• นายกรัฐมนตรีเตรียมนำครม. ใหม่ถวายสัตย์ 6ก.ย. และจะประชุมครม. นัดพิเศษ 7 ก.ย. ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 11-12 ก.ย.นี้  เผยร่างนโยบายระยะเร่งด่วนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ต ยกระดับราคาสินค้าเกษตร เตรียมงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 แสนลบ. 

 

• กกร. ขยับเป้าการส่งออกปีนี้เพิ่มเป็น1.5-2.5% แต่คงเป้า GDP ที่ 2.2-2.7% ชี้น้ำท่วมในช่วงส.ค.-ต้น ก.ย. 67 เสียหายไปแล้ว 6-8 พันลบ. หรือ 0.03-0.04% ของ GDP ภาคเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด 

 

• ธปท. เปิดรายงานการประชุม กนง. เผยอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันสอดคล้องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รับเห็นสัญญาณสินเชื่อด้อยคุณภาพเริ่มกระจายจากครัวเรือนรายได้น้อยสู่กลุ่มรายได้สูง หนุนมาตรการค้ำประกันและปรับโครงการหนี้อุ้มSME

 

• Reuters รายงานว่า OPEC+ กำลังพิจารณาเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตที่จะเริ่มในเดือนต.ค. ออกไป เนื่องจากราคาน้ำมันร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังตลาดน้ำมันเผชิญแรงกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและอุปทานที่ผันผวน

 

• สหรัฐเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานใหม่ก.ค. โดย JOLTS ปรับลง เหลือ 7.67 ล้านตำแหน่ง ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ม.ค. 64 บ่งชี้ว่าภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานผ่อนคลายลงอย่างต่อเนื่อง และอาจเป็นแรงผลักดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

 

• ประธานเฟดแอตแลนตาเห็นว่าเฟดไม่ควรตรึงดอกเบี้ยสูงนานเกินไป เพราะมีความเสี่ยงทำให้การจ้างงานได้รับความเสียหาย และการรอให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายที่ 2% ก่อนที่จะปรับลดดอกเบี้ยมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตลาดแรงงานเผชิญกับภาวะชะงักงัน

 

กลยุทธ์การลงทุน  ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway Up จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่น่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังเริ่มมีความชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมืองไทยและการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปลาย 3Q-4Q67 บวกกับ มอง ธปท. เปิดโอกาสเตรียมลดดอกเบี้ยได้มากขึ้น รวมไปถึงกระแส Fund Flow คาดยังไหลเข้าในตลาด EM ต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินบาทและเอเชียแข็งค่าขึ้น โดยมองเม็ดเงินลงทุนจะไหลออกจากกลุ่มพลังงาน ปีโตรเคมี สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ เข้าสู่กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก รับเหมาฯ และการแพทย์ ซึ่งช่วยลดทอนผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยคาดดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐและจีนจะชะลอตัวลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”  

 

Top Picks

CPALL: มองกำไร 2H67 จะเติบโต YoY เด่นสุดในกลุ่มฯ จากการเติบโตที่แข็งแกร่งจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นทั้งจากธุรกิจ CVS และ CPAXT นอกจากนี้ CPALL ยังเป็นอีกหุ้นที่คาดได้รับประโยชน์จากการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมาของรัฐบาลใหม่ (ซึ่งยังไม่รวมอยู่ในประมาณการของเรา)

 

GPSC: มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจาก Bond Yield และราคาก๊าซที่ปรับตัวลง ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 4.58 พันลบ. เติบโต 33.8%YoY และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 16.3%YoY ในปี 2568 ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังมีกำลังการผลิตติดตั้งที่สูงขึ้นในอินเดียและไต้หวัน

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com