แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (11 มิ.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET คาดช่วงแรกได้ sentiment บวก จากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมยังเผชิญปัจจัยกดดันด้านการเมือง และทิศทาง fund flow ไหลออก ทำให้มองการฟื้นตัวถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1325-1330 จุด และมีโอกาสปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1310 และ 1300 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะขึ้นไปที่ 86 เหรียญ/บาร์เรลใน 3Q67 หนุนจากการเดินทางในช่วงฤดูร้อน และอุปสงค์ในการใช้พลังงานเพื่อผ่อนคลายความร้อน ซึ่งจะทำให้อุปสงค์น้ำมันในตลาดมากกว่าอุปทานถึง 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน
• รัฐบาลมาเลเซียประกาศยุติมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาลราว 4 พันล้านริงกิต/ปี และสกัดการลักลอบขายน้ำมันออกนอกประเทศสร้างความเสียหายปีละหลายพันล้าน ริงกิต
• Apple เปิดตัวฟีเจอร์ด้าน AI ในชื่อ Apple Intelligence โดยนำเอา ChatGPT ของ OpenAI มาอยู่ในทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น iOS 18, iPadOS18, macOS Sequoia และ visionOS 2
• FETCO ระบุดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน พ.ค. 67 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเป็นเดือนที่ 4 คาดหวังปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้น ศก. ภาครัฐ และนโยบายของ Fed ปัจจัยฉุดคือความขัดแย้งระหว่าง ปท. และเงินเฟ้อ
• ที่ประชุม ครม. ศก. หารือถึงการแก้ปัญหา ศก. ที่โตต่ำกว่าศักยภาพและต่ำกว่าภูมิภาคโดยมาตรการระยะยาวตั้งเป้า GDP ต้องขยายตัวราว 5% แต่ช่วงที่เหลือปีนี้ต้องมีมาตรการระยะสั้นเพื่อให้ GDP ปีนี้โตได้ราว 3% นอกจากนี้ยังตั้งเป้าเพิ่มจำนวน นทท. ปีนี้เป็น 36.7 ล้านคน รวมทั้งการเร่งงบลงทุนสูงกว่า 70% เพิ่มการลงทุน 3-4 หมื่นลบ. เตรียมออกซอฟต์โลนกว่าแสนลบ. ช่วยเหลือSMEs
• BOI ระบุเร่งดึงการลงทุนอุตฯ อิเล็กฯ ต้นน้ำ ขณะที่รัฐบาลเตรียมตั้งบอร์ดเซมิคอนดักเตอร์เพื่อพัฒนาให้เกิดระบบนิเวศ ดึงผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเพื่อยกระดับอุตฯ มูลค่าสูง
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบาง โดยได้รับแรงกดดันจากประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะกดดันให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% เช่นเดิม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดยังไร้สัญญาณบวกใหม่ในสัปดาห์นี้ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ค. ของสหรัฐและจีนคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น MoM ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดคาดจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.50% แต่คาดจะมีปรับ dot plot ลดดอกเบี้ยในปีนี้น้อยกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3 ครั้ง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
BBL หนึ่งในหุ้นเด่นกลุ่มธนาคาร โดยมอง valuation น่าสนใจ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และสินเชื่อเติบโตโดดเด่น อีกทั้งล่าสุดเรามีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลังคาดปีนี้ ธปท. จะไม่ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ปี 2567 คาด BBL จะมีกำไรเติบโต 5%YoY และโตต่อ 10%YoY ในปี 2568
TOP ระยะสั้นคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้น ขณะที่ค่าการกลั่นมองอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้วและกำลังรอฟื้นตัว จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินตามฤดูกาล อีกทั้งผลการดําเนินงานธุรกิจอะโรเมติกส์คาดจะปรับตัวดีขึ้น จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง หนุนจากอุปทานที่ตึงตัวในเอเชีย