กลุ่มทิสโก้ โชว์กำไรปี 66 ทำนิวไฮทะลุ 9 พันล้าน รายได้ดอกเบี้ยพุ่งตามสินเชื่อโตกว่า 7% แต่รายได้ค่าฟีจากตลาดทุนวูบตามภาวะตลาดหุ้น ตั้งเป้าปี 67 รายได้โต 0-10% ชี้ปัจจัยใน-ตปท.รุมเร้า ชูเรือธง 'สินเชื่อ-นายหน้าประกัน' เดินหน้าเปิดสาขาสมหวังเงินสั่งได้อีก 200 แห่ง พ่วงขายประกัน ขยายฐานลูกค้า ปั๊มรายได้ค่าฟี พร้อมเน้นโตอย่างมีคุณภาพฝ่าความเสี่ยง
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือกลุ่มทิสโก้ เปิดเผย ผลดำเนินงานปี 2566 ว่า กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ9,092 ล้านบาท ถือว่าทำนิวไฮ แม้ว่าจะมีการเติบโตต่ำ 1.1% เทียบกับปี 2565 ก็ตามโดยมีรายได้รวม 19,046 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ซึ่งเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้นสูงถึง 8.6% จากสินเชื่อที่ขยายตัว 7.2% และการเน้นปล่อยสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง(ไฮยีลด์) ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ลดลงกว่า 6% ตามภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงแรงในปีที่แล้ว และตลาดรวมมีมูลค่าการซื้อขายลดลงกระทบค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ของธุรกิจหลักทรัพย์และกองทุนรวมลดลง รวมถึงการรับรู้ผลขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL) ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพิ่มขึ้นกว่า 8.7% ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 2.2%
แนวโน้มในปี 2567 กลุ่มทิสโก้ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 0-10% ซึ่งเป็นช่วงกว้างมาก เนื่องจากปีนี้ยังมีความไม่แน่นอนทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตได้ 3-4% หลักๆยังมาจากภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่องภาคส่งออกที่คาดกลับมาขยายตัวและการลงทุนที่อาจเร่งตัวขึ้น
"แม้เศรษฐกิจไทยจะมีสัญญาณที่ดีแต่ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงรุมล้อมรอบด้าน อาทิปัญหาภัยแล้ง ความเปราะบางของภาวะหนี้ครัวเรือนไทย อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับสูงตลอดจนความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯจีน และยุโรป เป็นต้น ภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ปีนี้กลุ่มทิสโก้มุ่งมั่นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ขยายสินเชื่อออย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยและต้นทุนทางการเงินที่อยู่ระดับสูงเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการอย่างรัดกุมทุกด้าน เพื่อรักษาสมดุลในการรับมือความท้าทายต่างๆ และเข้าไปช่วยเหลือดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด การให้คำปรึกษาในการรวมหนี้เพื่อให้มีภาระดอกเบี้ยที่ลดลงผ่าน Freedom Platform พร้อมกับนำ Digital Platform for Omni Channel มาปรับใช้โดยยกระดับความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลและการบริหารความเสี่ยง และใช้ Smart Assistance and Automation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ "
สำหรับแนวโน้มกลุ่มธุรกิจสินเชื่อ คาดว่าจะสร้างการเติบโตในระดับเดียวกันกับเศรษฐกิจไทย โดยมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม โดยสินเชื่อรายย่อยจะพิจารณาตามความเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และภาระหนี้ของลูกค้า ซึ่งในปีนี้ยังคงเน้นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกัน ได้แก่ สินเชื่อจำนำทะเบียน ในธุรกิจสมหวัง เงินสั่งได้ ปีนี้จะขยายสาขาอีก 200 แห่ง พร้อมกันนี้จะรักษามาร์เกตแชร์ของสินเชื่อเช่าซื้อกลุ่มสินเชื่อรถมือสอง สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ และสนับสนุนสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ควบคู่กับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งปีนี้คาด NPL อาจจะเพิ่มขึ้นมาที่ 2.50-2.75% เรื่องจากเน้นสินเชื่อไฮยีลด์ ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ยังเห็นการเติบโตในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้าและพลังงานทางเลือก ซึ่งทิสโก้จะใช้จุดแข็งของการบริการแบบ Total Solution มาตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า
ส่วนธุรกิจธนบดีธนกิจและตลาดทุน เน้นให้บริการการให้คำแนะนำอย่างผู้เชี่ยวชาญแบบองค์รวมครอบคลุมด้านการวางแผนการเงิน การลงทุน ความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพ ตลอดจนการวางแผนเพื่อคุณภาพชีวิตหลังการเกษียณ พร้อมยกระดับความสามารถการให้บริการในช่องทางดิจิทัลที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าขณะเดียวกันจะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Mass Affluent ที่มีเงินฝากและ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
ด้านธุรกิจนายหน้าประกันภัย ปีนี้ได้เพิ่มพันธมิตรอีกรายคือ เจนเนอราลี่ ประกันชีวิจนอกเหนือจากพันธมิตรเดิม ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การวางแผนบริหารความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เป็นการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า การขยายพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อมุ่งให้เกิดระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบัน
นายศักดิ์ชัย กล่าวและเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 กลุ่มทิสโก้ ดำเนินธุรกิจครบรอบ 55 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทิสโก้ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมเป็นแนวทางสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ในปีนี้ทิสโก้ยังคงยืนหยัดก้าวไปข้างหน้าเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินที่ยั่งยืนให้กับคนไทย โดยบูรณาการแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) เข้าไปอยู่ในแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจทั้งการเป็นองค์กรที่ร่วมผลักดันการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) การสนับสนุนการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมการสร้างความยั่งยืนทางการเงินส่วนบุคคลแก่คนไทย การเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินและให้ความรู้ทางการเงินแก่สังคม เพื่อมุ่งสู่อนาคตแห่งความมั่งคั่งที่ยั่งยืนไปด้วยกัน