เมย์แบงก์ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SingTel จากแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้น และส่วนลดใน holding company ที่ประมาณ 39%โดยหนึ่งในปัจจัยบวกที่มีแนวโน้มขับเคลื่อนราคาหุ้น SingTel คือ การที่บริษัทร่วมอย่าง Bharti Airtel ได้ปรับขึ้นราคาบริการมือถือในอินเดียเฉลี่ย 15% ซึ่งคู่แข่งในอุตสาหกรรมก็ปรับราคาขึ้นเช่นกัน นับเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อกำไรของ SingTel อย่างมีนัยสำคัญ
จากการที่ Singtel ถือหุ้น Bharti Airtel 29% การปรับราคาการให้บริการมือถือขึ้นในอินเดียส่งผลให้ทางเมย์แบงก์ปรับประมาณการกำไรของ Singtel ขึ้น 4-8% ในปี 68-70นอกจากการปรับประมาณการกำไรขึ้น ทางเมย์แบงก์ได้ปรับมูลค่าเหมาะสมของ SingTel แบบ Sum-of-the-Parts (SoTP) ขึ้นจาก 3.24 เหรียญสิงคโปร์ เป็น 3.40 เหรียญสิงคโปร์ โดยคำนึงถึงมูลค่าที่สูงขึ้นของ Bharti Airtel ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.24 เหรียญสิงคโปร์ สูงกว่าราคาตลาดประมาณ 29%
ณ ปัจจุบัน อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของ Singtel แข็งแกร่งที่ 6-7% และประมาณการกำไรสุทธิต่อหุ้นสำหรับปีงบประมาณ 2026-2027 ของทางเมย์แบงก์สูงกว่าประมาณการของตลาดประมาณ 8-12% ยิ่งไปกว่านั้น เมย์แบงก์ยังมองเห็นว่ามีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่จะเข้ามาอีกในอนาคต ตอกย้ำความมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของ SingTel
โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเมย์แบงก์ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเพียงผู้เดียวของหุ้น DR SINGTEL80 ตราสารแสดงสิทธิในหุ้นต่างประเทศของบริษัท Singapore Telecommunications Limited (Singtel) ออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้วิเคราะห์เชิงบวกต่อ Singtel โดยเป็นบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ มี Market Cap ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของ SGX และมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับต้นๆ ในหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน และออสเตรเลีย อีกทั้ง Singtel ยังมีแผน มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่น อาทิ ไอซีทีโซลูชั่น ดาต้า เซ็นเตอร์ ดาวเทียม คลาวด์ และ AI