แนวโน้มตลาดวันนี้ (25 ก.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ และได้รับ sentiment ลบ จากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลงแรง รวมถึงปัจจัยการเมืองยังไม่ชัดเจน ทำให้แนวโน้ม SET การฟื้นตัวยังจำกัด โดยมีแนวต้าน 1305 และ 1310 จุด ขณะที่สัญญาณที่อ่อนแรง ทำให้มีโอกาสปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1294 และ 1285 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• ยอดขายบ้านใหม่ มิ.ย. ของสหรัฐลดลง 0.6%MoM ทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น ก.ค. ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 27 เดือน
• ราคาหุ้น Alphabet ลดลง 5%DoD ต่ำสุดตั้งแต่ 31 พ.ค. 67 หลังรายได้โฆษณาบน YouTube ต่ำคาด ส่วน Tesla ลดลง 12.3%DoD แรงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 63 หลังอัตรากำไร 2Q67 ต่ำสุดรอบ 5 ปี-รายได้ต่ำคาด
• ก. คลังแถลงลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตกลุ่มแรกปชช. มีสมาร์ตโฟน 1 ส.ค.-15 ก.ย. ผ่านแอปทางรัฐ ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนต้องรอก่อน ระบุ 18 สินค้าไม่เข้าร่วมโครงการ ส่วนร้านค้าให้ลงทะเบียน 1 ต.ค.
• ศาล รธน. กำหนด 14 ส.ค. 67 นัดฟังคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯ หลังพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอ
• ก. คลัง ระบุการปรับปรุงเงื่อนไขกองทุน ThaiESG อยู่ในขั้นตอนการสอบถามความเห็นจากกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงยังไม่สามารถกำหนดได้ว่า ครม. จะนำมาพิจารณาได้เมื่อใด
• AREA ระบุธุรกิจอสังหาฯ 1H67 ยอดขายลดลง 31.3%YoY จาก Ld. ชะลอตัว กำลังซื้อหดตัว ทำให้คนซื้อบ้านชะลอการตัดสินใจ ขณะที่ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาบ้านเดี่ยวราคาแพงรองรับผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก ศก.
• ตลท. ระบุ ส.ค. นี้ ร่วมมือกับ ก.ล.ต.และ ปปง. จัดทำ MOU บังคับใช้กฎหมายเข้มงวดเอาผิดลงโทษผู้ที่ปั่นหุ้น ตกแต่งงบดุล โดยให้ยึดทรัพย์ก่อนตรวจสอบ พร้อมตั้งคณะทำงานพิเศษ ใช้ AI ตรวจสอบงบการเงิน รายงานข้อมูลและแจ้งเตือนนักลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET ยังคงมี Upside จำกัด เนื่องจากยังรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อีกทั้งติดตามงบ 2Q67 ของบจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนปัจจัยต่างประเทศคาดได้แรงหนุนจากสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ย โดยคาดดัชนี PCE และ PMI ของสหรัฐจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง อีกทั้งงบ 2Q67 ของ บจ. ในสหรัฐน่าจะยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดีความคาดหวังต่อ Fund Flow ที่จะไหลกลับสู่ตลาด EM อาจจะยังจำกัดจากเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอและค่าเงินดอลลาร์ที่ยังไม่อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นจะยังเป็นความเสี่ยงของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
BDMS 2Q67 คาดกำไรปกติที่ 3.4 พันลบ. โต 11%YoY จากรายได้และ EBITDA Margin ขยายตัว แต่ลดลง 17%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล คาดกำไรปกติปี 2567 โต 13%YoY สู่ 1.6 หมื่นลบ. โดยการดำเนินงานและกำไรจะแข็งแกร่งใน 2H67 ปัจจุบันซื้อขายบน PER 67F ที่ 26 เท่า ต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต
MINT 2Q67 คาดกำไรปกติที่ 3.3-3.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากการเข้าสู่ High Season ของยุโรป อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง ซื้อขายที่ PER 67F ระดับ 23 เท่า ใกล้เคียง -1SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต และยังไม่สะท้อนกำไรปกติปี 2567 ที่คาดเติบโต 12%YoY สู่ระดับ 8 พันลบ. แนะนำเข้าซื้อราคาไม่เกิน 30 บ.