บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก โชว์ผลงานงวด 9 เดือนแรกปี 66 ฟาดกำไร 123.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.19% สูงกว่าทั้งปีของปี 65 "วิวรรธน์ เหมมณฑารพ"เดินหน้าจับมือพันธมิตรออกผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ สร้าง New S -Curve หนุนปี 67 ผลงานโตก้าวกระโดด
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (PJW) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) มีกำไรสุทธิ 123.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.24 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71.19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 71.97 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าทั้งปีของปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 83.53 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,636.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 2,626.40 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 40.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.03 ล้านบาท หรือคิดเป็น 109.22% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 19.26 ล้านบาท และมีรายได้รวม 782.23 ล้านบาท ลดลง 37.58 ล้านบาท หรือลดลง 4.58% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 813.81 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากยอดขายในส่วนของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในส่วนของชิ้นส่วนยานยนต์พลาสติก งานพ่นสีและทูลลิ่งเพิ่มขึ้นจากงานนิวโมเดล อีกทั้งปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายแล้วทำให้ผู้ผลิตรถยนต์กลับมาเพิ่มกำลังการผลิต
นอกจากนี้ ในส่วนของบรรจุภัณฑ์กลุ่มอุตสาหกรรมนมและนมเปรี้ยว และบรรจุภัณฑ์กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มสูงขึ้นจากการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น
“ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ PJW เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำการกลับมาเทิร์นอะราวด์เต็มรูปแบบ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ส่งผลเชิงบวกต่อ 3 ธุรกิจดาวเด่นของบริษัทฯ ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งนมพาสเจอไรซ์ และนมเปรี้ยว กลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่นิวโมเดล หลังจากที่ต้องเลื่อนออกไปจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และธุรกิจลอนดรี้มีลูกค้ากลุ่มโรงแรม โรงพยาบาลรวมถึงขนส่ง เพิ่มมากขึ้น ตามการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว” นายวิวรรธน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยจะเร่งแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรักษาอัตรากำไรในภาวะที่ต้นทุนการผลิต ทั้งค่าแรงและค่าพลังงาน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่เริ่มมีทิศทางดีขึ้น
บริษัทฯยังคงเดินหน้าเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะในด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกเพิ่มเติม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง เพื่อสร้าง New S-Curve ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้สายการผลิตบางส่วนได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบผลิตภัณฑ์ เพื่อขอมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยคาดว่าจะเริ่มขายได้ปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ปี 2567 พร้อมกับมีพันธมิตรที่มีความมั่นใจได้เริ่มติดต่อเข้ามา รวมทั้งยังคงเปิดโอกาสในการศึกษาแนวทางในการ Synergy ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต