แนวโน้มตลาดวันนี้ (24 ก.ค.) บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET แม้มีโอกาสฟื้นตัว จากลงแรงเมื่อวาน และปัจจัยหนุนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลจะมีการแถลงความคืบหน้าในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาณยังอ่อนแรง ทำให้คาดการฟื้นตัวถูกจำกัด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1310 และ 1320 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1294 จุด หากต่ำกว่า เป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1287 จุด
ประเด็นสำคัญ
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2%DoD หลังนายกฯ อิสราเอลระบุขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยสั่งให้คณะเจรจาของอิสราเอลทำการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้
• ครม. เห็นชอบคงค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 2567 ที่ 4.18 บ./หน่วย และมีมาตรการดูแลค่าไฟฟ้าสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือนที่ 3.99 บ./หน่วย อีกทั้งคงเพดานดีเซลไม่เกิน 33 บ./ลิตร
• ก. คลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เพิ่ม เพื่อดูแลอสังหาฯ ที่มียอดค้างสต๊อกจำนวนมาก โดยรอผ่านความเห็นชอบจาก ครม.
• วันนี้ติดตาม รมว. คลัง แถลงรายละเอียดการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่ รมว. พาณิชย์ ระบุแจกเงินดิจิทัล ต.ค. นี้ เตรียมผลักดันร้านค้าธงฟ้าเข้าร่วม 1.5 แสนร้านค้าและ 7-11 เข้าร่วมโครงการ
• วันนี้จับตาศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีถอดถอนนายกฯ
• สมาคมโรงแรมไทยระบุสถานการณ์การท่องเที่ยว 1 ม.ค. - 14 ก.ค.67 ดีกว่าปี 2566 จำนวน นทท. ต่างชาติกว่า 18 ล้านคน +34%YoY จำนวน นทท. สูงสุด 5 อันดับแรก คือ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ รัสเซีย
• สคร. ระบุ ก. คลังได้พิจารณากรอบการขายหุ้นที่ถืออยู่นอก ตลท. เบื้องต้นมี 25 บ. มูลค่ารวม 2 หมื่นลบ. โดยหุ้นบางตัวนอกจากจะไม่สร้างรายได้เพิ่ม ยังเป็นภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลอีกด้วย
• บราซิลประกาศพบการระบาดของโรคนิวคาสเซิลในสัตว์ปีกในรอบ 18 ปี ทำให้ได้ระงับและจำกัดการส่งออกอย่างสมัครใจ ทั้งเนี้เรามองหากยืดเยื้อมีแนวโน้มเป็นบวกต่อผู้ประกอบการส่งออกไก่จากไทย (GFPT, CPF, BTG) ซึ่งส่งออกไก่ไปยังญี่ปุ่น ยุโรป และจีน
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET ยังคงมี Upside จำกัด เนื่องจากยังรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อีกทั้งติดตามงบ 2Q67 ของบจ. ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนปัจจัยต่างประเทศคาดได้แรงหนุนจากสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ย โดยคาดดัชนี PCE และ PMI ของสหรัฐจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง อีกทั้งงบ 2Q67 ของ บจ. ในสหรัฐน่าจะยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดีความคาดหวังต่อ Fund Flow ที่จะไหลกลับสู่ตลาด EM อาจจะยังจำกัดจากเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอและค่าเงินดอลลาร์ที่ยังไม่อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นจะยังเป็นความเสี่ยงของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Top Picks
BEM 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต 16.3%QoQ และ 9.4%YoY สู่ 985 ลบ. ส่วน 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต QoQ และ YoY ต่อเนื่อง อีกทั้งมองมี Upside Risk เพิ่มเติมจากโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (double deck) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งเรายังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการ
CPALL 2Q67 คาดกำไรสุทธิ 5.8 พันลบ. เติบโต 31%YoY ดีสุดในกลุ่มพาณิชย์ หนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก CPAXT ส่วนแนวโน้มกำไร 2H67 คาดจะเติบโต YoY โดดเด่นมากกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มฯ เช่นกัน จากการเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งจากธุรกิจ CVS และ CPAXT