Market

InnovestX คาด SET ย่อสลับได้บ้าง แต่ภาพรวมฟื้นต่อ
27 ก.พ. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (27 ก.พ.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์  คาดคณะกรรมการกนง. สร้างเซอร์ไพส์ให้กับตลาด โดยปรับลดดอกเบี้ยเมื่อบ่ายวาน หลังจากนั้นดัชนีปรับขึ้นโดดเด่น และภาพทางเทคนิคเริ่มเป็นบวก ทำให้มองจะฟื้นตัวได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1240 และ 1255 จุด ตามลำดับ ด้านแนวรับสำหรับการย่อตัวสลับระยะสั้นอยู่ที่ 1220 และ 1210 จุด ตามลำดับ คาดยังรองรับได้

 

ประเด็นสำคัญ

• Reuters รายงานว่า Itochu ตัดสินใจไม่ร่วมการซื้อกิจการ Seven & i Holdings และหลังปิดตลาด CPALL ได้ประกาศจะไม่เข้าร่วมเช่นกัน

 

• ที่ประชุม กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25ิbps สู่ 2.00% ผิดจากตลาดคาดคงดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจไทยทรุดกว่าคาด เตรียมปรับ GDP เม.ย.นี้ เหลือ 2.5% จากเป้าเดิมที่ 2.9% ชี้ภาคการผลิตติดลบ ส่งออกเพิ่มจากสต็อกเก่า แต่ย้ำลดครั้งนี้ไม่ใช่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง

 

• รมว. ท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซันวงเงิน 3,500 ลบ. สำหรับ 1 ล้านสิทธิ์ ช่วง พ.ค.-ก.ย. 2568 รูปแบบคล้ายเราเที่ยวด้วยกันที่ภาครัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว 50%  

 

• นายกสมาคมโรงแรมไทยเสนอรัฐบาลปรับลดจำนวนวันพำนักของมาตรการฟรีวีซ่าสำหรับ 93 ประเทศ เหลือไม่เกิน 30 วัน จาก 60 วัน หลังพบต่างชาติประกอบธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้นผ่านนอร์มินีกระทบความมั่นคง และความเชื่อมั่นของประเทศ

 

• สภาพัฒน์เผยหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงสู่ 89.0% ที่ 16.34 ล้านลบ. จาก 89.8% แต่ NPLs ต่อสินเชื่อเพิ่มขึ้น + 14.1%QoQ เพิ่มขึ้นในทุกประเภท โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต ยกเว้นสินเชื่อทางการเกษตร

 

• EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล ผิดจากที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น เบนซินและดีเซลเพิ่มขึ้น 0.37 และ 3.9 ล้านบาร์เรล

 

• ปธน. จีนสื่อสารถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนให้อย่าตื่นตระหนกจากแรงกดดันจากสหรัฐฯ และรัฐบาลจีนมีมาตรการเตรียมพร้อมในการตอบโต้นโยบายการค้าของปธน. ทรัมป์

 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside จำกัด โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1300 จุด ประเมินว่าปัจจัยมหภาคจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยเป็นผลจากดัชนี PCE มีแนวโน้มชะลอตัวลงเหลือ 2.5% ซึ่งจะไม่กดดันให้เฟดเปลี่ยนท่าทีต่อนโยบายการเงิน และ PMI ภาคการผลิตและบริการของจีนมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่ ธปท. มีมติปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ 2.00% สร้างเซอร์ไพร์สให้แก่ตลาด ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาใน นอกจากนั้นแนวโน้มผลประกอบการ 1Q68 น่าจะบ่งชี้ว่ากำไรของตลาดหุ้นไทยได้ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้วในช่วง 2H67 ทำให้เรามองว่า กระแสเงินจากต่างชาติมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น รวมไปถึงมาตรการของ ตลท. ต่อการสร้างความเชื่อมั่นน่าจะช่วยให้ตลาดคลายความกังวลในระดับนึง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

Daily top picks

CPALL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นหลังบริษัทแจ้งไม่ประสงค์จะเข้าร่วมลงทุนในบริษัทค้าปลีก (Seven & i) ของญี่ปุ่น ซึ่งอาจช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับขึ้นกลับสู่ระดับก่อนมีข่าวออกมา (+4% จากราคาหุ้นปัจจุบัน) ส่วนกำไร 4Q67 อยู่ที่ 6.9 พันลบ. (+23% YoY, +12% QoQ) ดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 5% และกำไร 1Q68 คาดยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรไม่เกินหุ้นละ 55 บาท

 

GPSC: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการปรับตัวลงของราคาก๊าซฯ และ Bond Yield และเตรียมถูกเข้าคำนวณใน MSCI Global Small Cap (มีผลราคาปิดวันที่ 28 ก.พ. นี้) ปัจจุบันยังมองเห็นปัจจัยหนุน ได้แก่ การเพิ่มกำลังการผลิต, ได้รับคัดเลือกในโครงการพลังงานทดแทนระยะที่ 2 รอบแรก, ไม่มีผลกระทบจากการบังคับใช้ภาษีขั้นต่ำสากล

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com