“เอสจี แคปปิตอล (SGC)” ย้ำแผนเพิ่มทุน RO พ่วงวอแรนต์ เพื่อปรับโครงสร้างทุน และขยายโอกาสทางธุรกิจสินเชื่อสมาร์ทโฟน “SG Finance+” ด้วยเทคโนโลยี Locked Phone มองครึ่งปีหลังไฮซีซั่นธุรกิจมือถือ พร้อมฟีเจอร์ AI หนุนความต้องการ SG Finance+ เติบโตอย่างมั่นคง ควบคุมความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ โดยพิจารณาเฉพาะผู้ที่มีศักยภาพในการผ่อนชำระ ไม่กู้เกินตัว มีความรับผิดชอบ เพื่อเป็นไปตามนโยบายภาครัฐ ย้ำ มือถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ดีมานด์ที่เข้ามาเพื่อนำไปประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ให้ลูกค้า ด้าน SINGER มองบริษัทย่อยยังคงมีโอกาสการเติบโตในอนาคต ภายใต้ Ecosystem ของ SINGER
นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยว่า “ภายหลังจากที่ประกาสแผนเพิ่มทุนไปแล้วนั้น นักลงทุน และผู้ถือหุ้น ได้สอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดแถลงแผนเพิ่มทุนเพื่อให้ทุกท่านเข้าใจได้เท่าเทียมกัน โดยมองโอกาสของสินเชื่อ “เอสจี ไฟแนนซ์พลัส (SG Finance+)” ภายใต้แคมเปญ Locked Phone จะเป็น Turning Point ของ SGC เนื่องจากแผนการปล่อยสินเชื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบผ่านร้านมือถือชั้นนำทั่วประเทศ (Nationwide) ไปเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งนี้ปัจจุบันมียอดปล่อยสินชื่อ ณ ปล่อยสินเชื่อได้กว่า 18,000 สัญญา รวมมูลค่าสินเชื่อ 168 ล้านบาท ผ่านร้านค้าพันธมิตรครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 2,900 แห่ง
ทั้งนี้ การผ่อนมือถือเพื่อให้กับกลุ่มที่ต้องการใช้มือถืออย่างแท้จริง เพื่อนำไปประกอบอาชีพ การติดต่อสื่อสาร และพิจารณาควบคุมความเสี่ยงในการปล่อยให้กับลูกค้าที่มีศักยภาพผ่อนจริง โดยหลักๆ เป็นกลุ่ม Underserved เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการปล่อยสินเชื่อของภาครัฐ ที่ต้องการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ”
นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER บริษัทแม่ของ SGC เปิดเผยว่า ในฐานะของบริษัทแม่ ซึ่งถือหุ้น 74.92% เชื่อมั่นว่า การปรับเปลี่ยนทางธุรกิจเพื่อสร้างรากฐานใหม่ในการเติบโตของ SGC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SINGER ในครั้งนี้ จะสร้างโอกาสการเติบโตต่อไปในอนาคต ทั้งในด้านผลการดำเนินงาน และความมั่นคงทางการเงินในงบดุลของบริษัท ทั้งนี้ SINGER ได้พิจารณาประมาณการทางการเงินในอนาคตแล้ว มองว่า การนำเอาเทคโนโลยี และการควบคุมความเสี่ยงด้วยระบบมาช่วยบริหารจัดการ จะสร้างรากฐานการเติบโตของกลุ่ม SINGER เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต
โดยก่อนหน้านี้ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (SGC) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 5,232 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 3,270 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 8,502 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,232 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยจะเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) 3,270 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยราคาเสนอขายจะเป็นราคาที่มีส่วนลดไม่เกิน 15% ของราคาตลาด ณ วันกำหนดราคาเสนอขาย
รวมทั้ง จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 654 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (SGC-W1) ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (ก่อนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้) และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,308 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 2 (SGC-W2) ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน
ทั้งนี้ การออกและเสนอขาย SGC-W1 จำนวนไม่เกิน 654 ล้านหน่วย โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญเดิม (ไม่รวมหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่) ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ SGC-W1 กำหนดอัตราการใช้สิทธิของ SGC-W1 1 หน่วย ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ มีอายุ 1 ปี โดยราคาใช้สิทธิแปลงสภาพจะเป็นราคาที่มีส่วนลด 10% ของราคาตลาด ณ วันกำหนดราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ
อีกทั้ง การออกและเสนอขาย SGC-W2 จำนวนไม่เกิน 1,308 ล้านหน่วย โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย ในอัตราส่วน 2.5 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จองซื้อและได้รับการจัดสรร ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ กำหนดอัตราการใช้สิทธิของ SGC-W2 1 หน่วย ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ มีอายุ 3 ปี โดยราคาใช้สิทธิแปลงสภาพจะเป็นราคาที่มีส่วนเพิ่ม 10% ของราคาตลาด ณ วันกำหนดราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ
สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนครั้งนี้ SGC มีแผนจะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการและขยายธุรกิจในอนาคต และใช้ชำระหนี้ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และรองรับโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต อย่างไรก็ดี สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/67 กำหนดจัดในวันที่ 7 สิงหาคม 67 นี้ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์