ทิศทางหุ้นไทย คาดอ่อนแอต่อเนื่อง หวั่นแนวโน้มผลประกอบการ บจ. ไตรมาส 4 ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ปี 66 ตลาดรถใหม่ลดลง 9% ฝั่งจีนเสี่ยงเกิดภาวะเงินฝืด แนะลงทุน“ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐาน" รอการฟื้นตัวของตลาด
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (9 ก.พ.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET เผชิญแรงขายบริเวณ 1400 จุด ให้ปรับตัวลง และสร้างสัญญาณลบทางเทคนิคทำให้ดัชนีมีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1380 และ 1370 จุด ตามลำดับ ขณะที่การฟื้นตัวถูกจำกัดโดยมีกรอบบนบริเวณแนวต้าน 1400-1405 จุด ต้องขึ้นทะลุผ่านให้ได้ก่อนถึงจะกลับมาเป็นสัญญาณบวก
ประเด็นสำคัญ
• จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 218,000 ต่ำกว่าตลาดคาด
• เงินเฟ้อ ม.ค. ของจีนปรับลง 0.8%YoY ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และปรับลงมากที่สุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 ตอกย้ำว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด
• ธ. กลางอินเดียมีมติคง ดบ. ที่ 6.5% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 พร้อมส่งสัญญาณตรึง ดบ. ในระดับสูงต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย 4%
• Maersk ส่งสัญญาณถึงความไม่แน่นอนในแนวโน้มผลกำไรปี 2567 จากวิกฤตในทะเลแดงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเดินเรือ อีกทั้งยกเลิกแผนซื้อหุ้นคืนเนื่องจากความไม่แน่นอนดังกล่าว
• สทท. คาดจำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยปีนี้ 30 ล้านคน โดยคาด 1Q67 และ4Q67 (ฤดูท่องเที่ยว) ไตรมาสละ 9 ล้านคน ส่วน 2Q67 และ 3Q67 (ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว) ไตรมาสละ 6 ล้านคน
• เครดิตบูโร คาดหนี้ครัวเรือนยังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 ที่ผ่านมา โดยหนี้เสียรถยนต์กว่า 2.3 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 28% ขณะที่หนี้บ้านเป็นหนี้เสีย 1.8 แสนลบ. ค้างชำระหนี้ 1.78 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 31%
• โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ระบุปี 2566 ตลาดรถยนต์ในไทยลดลง 9% โดยรถกระบะลดลงถึง 32% ขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากจีนมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 11% โดยสัดส่วนการขายของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เติบโตขึ้นจาก 1% เป็น 10%
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมอง SET อยู่ในภาวะเปราะบางและการฟื้นตัวยังอยู่ในกรอบจำกัด หลังคาดเงินเฟ้อจีน ม.ค. มีแนวโน้มหดตัว ขณะที่ กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายวานนี้แม้ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. จะหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อีกทั้งดัชนี PMI ภาคบริการ ม.ค. ของสหรัฐ จีนและอียู จะชะลอตัวลง นอกจากนั้นผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทยอาจออกมาอ่อนแอและยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”
Top Picks
SPRC หุ้น Laggard กลุ่มโรงกลั่น ส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินฟื้น ล่าสุดอยู่ที่ 19.5 ดอลลาร์/บาร์เรล +14%MoM และเป็นโรงกลั่นที่มีสัดส่วนน้ำมันเบนซินสูงสุด คาดกำไรปกติ 1Q67 ดีขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวของ GRM คาดธุรกิจการตลาดน้ำมันช่วยหนุนให้ EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
AP 4Q66 คาดกำไรสุทธิ 1.39 พันลบ. +21.1%YoY จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง คาดปี 2566 กำไรทำนิวไฮ 5.9 พันลบ. และปี 2567 คาดกำไร6.3 พันลบ. โต 7.4%YoY อีกทั้งมองเป็นหุ้นปันผลคุณภาพดี คาด Div. Yield ปี 66 (หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว) เกิน 5%