Market

InnovestX คาด SET ถูกปัจจัยการเมืองยังกดดัน
3 ก.ค. 2567

แนวโน้มตลาดวันนี้ (3 ก.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์  คาด SET สัญญาณยังอ่อนแรง ด้วยเผชิญปัจจัยลบความไม่ชัดเจนด้านการเมือง รวมถึงทิศทาง fund flow ยังไหลออก ทำให้ภาพรวมมีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1280 และ 1270 จุด ตามลำดับ สลับการดีดสลับในช่วงสั้น แต่มีกรอบบนที่จำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1300 และ 1306 จุด ตามลำดับ

 

ประเด็นสำคัญ

• ปธ. Fed ระบุมีความคืบหน้ามากในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย แต่ Fed ต้องการมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับลงสู่ 2% อย่างยั่งยืน ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน

 

• ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน พ.ค. ของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ 8.14 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาด แต่ตัวเลขการเลย์ออฟพนักงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.65 ล้านตำแหน่ง

 

• ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐระบุ พายุเฮอริเคนเบริลซึ่งมีความอันตรายในระดับที่ 5 เคลื่อนตัวผ่านทะเลแคริบเบียน คาดจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกในช่วงปลายสัปดาห์นี้

 

• GM รายงานยอดขายรถยนต์ในสหรัฐ 2Q67 เพิ่มขึ้นสู่ 6.96 แสนคัน สูงสุดนับตั้งแต่ 4Q63 หนุนจากอุปสงค์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปิกอัพ ด้าน Tesla ระบุยอดส่งมอบรถยนต์ 2Q67 อยู่ที่ 4.4 แสนคัน สูงกว่าตลาดคาดและสูงกว่า 1Q67 ส่งผลราคาหุ้น +10.4%DoD

 

• สรท. ระบุการส่งออกของไทย 2H67 มีความเสี่ยง หลังค่าระวางเรือเพิ่มขึ้น 300% แนะนำรัฐบาลกำกับดูแลต้นทุนการผลิตเพื่อให้การส่งออกของไทยยังคงขีดความสามารถในการแข่งขัน

 

• ThaiBMA ระบุสถานการณ์ผิดนัดชำระหุ้นกู้ปีนี้ดีกว่าปีก่อน โดย 1H67 พบ 3 ราย รวม 1.1 พันลบ. ส่วน 9 ราย มูลค่ารวม 1.88 หมื่นลบ. ได้รับความไว้วางใจให้เลื่อนชำระได้ ขณะที่ 2H67 มีหุ้นกู้ครบกำหนด 4.4 แสนลบ.

 

กลยุทธ์การลงทุน  ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศซึ่งในวันที่ 3 ก.ค. ศาล รธน. จะมีการนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 10 ก.ค. ศาล รธน. จะมีการนัดพิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ มิ.ย. จีน อียูและสหรัฐฯ ซึ่งคาดจะออกมาทรงตัวถึงขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

 

Top Picks

CPALL 2Q67 คาดกำไรปกติและยอดขายสาขาเดิมโต YoY ดีกว่าผู้ประกอบ การรายอื่นในกลุ่มพาณิชย์ มองราคาหุ้น Undervalue ปัจจุบันซื้อขาย PER 67F ระดับ 21.6 เท่า คิดเป็น -2S.D. จากค่าเฉลี่ย PER 10 ปี สวนทางกำไรที่เติบโต คาดกำไรปกติปี 2567 โต 28%YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นดีขึ้น ดบ. จ่ายลดลง

 

KTB 2Q67 คาดกำไรที่ 1.1 หมื่นลบ.  โต 7%YoY จาก NIM และ non-NII เพิ่มขึ้น ขณะที่ Valuation ถูก Div. Yield ดี ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำ และกำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจาก credit cost ที่ลดลง อีกทั้งมองมี Upside จาก NIM (โอกาสที่จะคง ดบ. นโยบาย) และแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราจ่ายเงินปันผล

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com