บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป เปิดงบปี 66 กำไร 201.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.66 % ทำสถิติสูงสุดใหม่หลัง COVID-19 รายได้รวม 856.96 ล้านบาท โต 17.50% บอร์ดเคาะจ่ายปันผล 0.15 บาท/หุ้น ขึ้น XD 7 พ.ค.นี้ มั่นใจผลงานปี 67 โตต่อ รับอานิสงส์ คนอยากมีลูกปีมังกรพุ่งแรง ตามความเชื่อคนจีน คาดรายได้โตประมาณ 25%
นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SAFE) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 201.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.92 ล้านบาท หรือ 24.66% สร้างสถิติสูงสุดใหม่หลังจาก COVID-19 ส่วนรายได้รวม 856.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.64 ล้านบาท หรือ 17.50% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 729.32 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนรอบของการเก็บไข่ (treatment cycle) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนไข้ชาวต่างชาติ และรายได้จากการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อนและทารกในครรภ์ ที่เติบโตตามธุรกิจ IVF ที่ขยายตัวต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และความสมบูรณ์ของบุตรที่จะคลอดออกมา
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี2566 เป็นเงินสดในอัตรา 0.15 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 กำหนดจ่ายวันที่ 24 พฤษภาคม 2567
สำหรับแผนดำเนินงานของปีนี้ SAFE จะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมร่วมทุน (Joint Venture) กับโรงพยาบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเปิดคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และการให้บริการด้านห้องปฏิบัติการ (Lab Outsource) รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนในธุรกิจที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิมในส่วนของธุรกิจเสริมความงาม โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสร้าง Synergy และเพิ่มการเติบโตได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต และในปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการเติบโตประมาณ 25 %
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAFE กล่าวอีกว่า จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงตลาดมีปัจจัยบวกที่สำคัญ เนื่องจากในปี 2567 จะเป็น “ปีมังกร” ในปฏิทินจีน ซึ่งเชื่อว่าบุตรที่เกิดในปีนี้จะนำความโชคดีมาสู่ครอบครัว มีความกล้าหาญและเฉลียวฉลาด รวมถึงมาตรการฟรีวีซ่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้มีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากในไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนผลงานบริษัทฯให้เติบโตได้อย่างโดดเด่น ตามแผนที่วางไว้