หุ้นไทยวันนี้ คาดไปต่อรับผลโหวตนายกฯ 'เศรษฐา' ผ่าน เดินหน้าตั้งรัฐบาล หนุนการลงทุน- ศก. ฟื้น sentiment ตลาดหุ้นอีกครั้ง สวนตลาดดาวโจนส์ร่วง หลัง S&P หั่นเรทติ้งแบงก์ธนาคารในสหรัฐ แนะหุ้นค้าปลีก และอิงกระแสการเมือง
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (23 ส.ค.) บล.กรุงศรี ประเมิน SET ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,550 - 1,555 จุด ตอบรับการเมืองชัดเจนโดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและนายเศรษฐา ทวีสิน ได้เป็นนายกฯคนที่ 30 ของไทยซึ่งหนุนต่อการลงทุนและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตามความกังวล FED จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อประกอบกับ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารหลายแห่งในสหรัฐจะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง 24 – 26 ส.ค. ติดตามการประชุม Jackson Hole Symposium เพื่อจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ย
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy แนะนำหุ้น ADVANC INTUCH SIRI THCOM SC PR9 XPG GULF STEC STPI PTG CPALL CPAXT GLOBAL DOHOME CPN CRC หุ้นอิงกระแสการเมือง และ AMATA WHA ROJNA NYT อานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย
หุ้นแนะนำวันนี้
-CPAXT (ปิด 36 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 40 บาท) คาดหวังผลบวกจากภาพการเมืองที่ชัดเจนขึ้น การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลและออกมาตรการกระตุ้น ศก. จะส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุน, ยอดขาย และผลกำไรของ CPAXT โดยตรง
-BCH (ปิด 18.80 บาท ซื้อ/เป้า 20 บาท) ทยอยสะสมเข้าสู่ High season ของธุรกิจในช่วงฤดูฝน มีการระบาดของโรคจำนวนมาก อาทิ ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่ และ โรคปากเท้าเปื่อยในเด็ก เป็นบวกต่อผู้ประกอบการที่เน้นผู้ป่วยในประเทศ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) การเมืองเดินหน้า นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของไทย: โดยนายเศรษฐา ได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบจากรัฐสภา 482 คะแนน ไม่เห็นชอบ 165 คะแนนและงดออกเสียง 81 คะแนน ลำดับถัดไปประธานสภาฯ จะนำชื่อ นาย เศรษฐา ทวีสินขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้พระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ จากนั้น นายกฯ จะแต่งตั้งและประกาศรายชื่อ ครม. ต่อไป
(+) 5 นโยบายเด่นที่รัฐบาลใหม่เตรียมดำเนินการ: คือ 1) ดิจิทัลวอลเล็ต (digital wallet 10,000 บาท), 2) ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายใน 4 ปี, 3) ปรับขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, 4) เพิ่มราคาพื้ชผลการเกษตร และ 5) กัญชาการแพทย์และสุขภาพ คาดดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นนโยบายแรกที่จะถูกผลักดันเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CPALL, GLOBAL, DOHOME)
(-) ดาวโจนส์ลดลงหลัง S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในสหรัฐ: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 175 จุด (-0.51%) ปิดที่ 34,289 จุด หลัง S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในระดับภูมิภาค 5 แห่ง ลง 1 ขั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และมีสูญเสียสภาพคล่องจากการโยกย้ายเงินฝากของประชาชน