Market

SVR โชว์ฟอร์ม 9 เดือน กำไรโตกระฉูด 75.48% มองอสังหาฯโค้งสุดท้ายโตต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้ All Time High  
9 พ.ย 2566

บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท โชว์ผลงาน 9 เดือนแรก กำไรโต 75.48% แตะระดับ 63.16 ล้านบาท หลังกวาดรายได้รวม 717.65 ล้านบาท จาก 5 โครงการ ประกาศขานรับเศรษฐกิจฟื้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์โค้งสุดท้ายโตต่อเนื่อง มั่นใจผลงานปีนี้สร้างสถิติใหม่ ตามแผนการเติบโตสู่ระดับ High Growth 

นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และ ประธานเจ้าหน้าบริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมามีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงผลประกอบการของบริษัทฯในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-กันยายน) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 717.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.05% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ที่มีรายได้รวม 531.39 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 

ส่งผลให้กำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 63.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.48% หรือเพิ่มขึ้น 27.16 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 35.99 ล้านบาท โดยอัตรากำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 6.77% 

ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการทุกประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จาก 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา - ระยอง), 2.โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท - บางปู), 3.โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), 4.โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท - บางปู) และ 5.โครงการ สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58) 

“ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีนี้ ออกมาเติบโตอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะตัวเลขกำไรที่ทะลุปีที่แล้วทั้งปี มาอยู่ในระดับ 63.16 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าตัวเลขรายได้ และกำไรปี 2566 ทั้งปีจะสามารถทำสถิติ All Time High เมื่อเทียบปี 2565 ที่มีรายได้เพียง 726.15 ล้านบาท และกำไรที่ 56 ล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะในไตรมาส 4 ยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง สอดรับแผนสร้างการเติบโตสู่ระดับ High Growth ที่วางไว้”   

นายรณฤทธิ์  ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 ยังคงมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีการฟื้นตัวตามลำดับ  โดยมีปัจจัยบวกมาจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ชัดเจน ความมีเสถียรภาพทางการเมือง ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่น และเกิดการลงทุนภายในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งการลงทุนภายในประเทศและการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้เกิดการจ้างงาน อัตราการว่างงานลดลง กำลังซื้อของคนในประเทศกลับมาดีขึ้น  ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ภาพเศรษฐกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ และจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯเชื่อมั่นว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วาง 
 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com