แนวโน้มตลาดวันนี้ (3 ต.ค.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ยังได้รับ sentiment ลบ จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า เป็นลบต่อทิศทาง fund flow กดดันดัชนี อย่างไรก็ตาม คาดเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ช่วยประคองดัชนี ทำให้คาด SET จะเคลื่อนไหวภายในกรอบระหว่าง 1440-1460 จุด
ประเด็นสำคัญ
• วานนี้ราคาหุ้น Tesla ปรับลด 3.49% หลังเผยตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ 3Q67 ที่ 462,890 คัน ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนราคาหุ้น Nike ปรับลง 6.8%หลังประกาศยกเลิกคาดการณ์รายได้ตลอดปีงบการเงิน
• OPEC+ มีมติคงการลดกำลังผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน มาจากสมาชิก OPEC+ 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน (สิ้นสุดช่วงสิ้นปี 2568) และจากการมาตรการลดกำลังผลิตโดยสมัครใจจาก 8 ประเทศ2.2 ล้านบาร์เรล/วัน (ทยอยกลับมาเพิ่มตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567)
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำหนดภาษีในอัตราทั่วไปที่ 9.13% เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดแผงโซลาร์ของจีนผ่านบริษัทในอาเซียน เช่น กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และไทย และพิจารณาเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 90 วัน
• กกร. ประเมินช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วกดดันการส่งออกและเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งหากบาทแข็งค่าต่อในช่วงที่เหลือของปีอาจกระทบรายได้ส่งออก 1.8-2.5 แสนลบ.
• กกร. เสนอ ธปท. ลดดอกเบี้ย 25bps ภายในปีนี้และอีก 50bps ในปีหน้า เพื่อลดผลกระทบทบจากภาวะบาทแข็งค่ารุนแรง และทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อร่วมกับกระทรวงการคลัง
• กกพ. ประกาศกำหนดการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟสสอง ทั้งหมด 2,180MW ในวันที่ 8 ต.ค. นี้ โดยผู้ที่เคยยื่นและผ่านเกณฑ์แต่ไม่ถูกรับซื้อในการประมูลรอบก่อน 198 รายจะได้รับสิทธิ์การพิจารณาก่อน
• กระทรวงพาณิชย์เผยเทศกาลกินเจคึกคัก พบคนออกมาจับจ่ายใช้สอย ชี้ได้อานิสงส์เติมเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบาง ด้านธพ. เผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 8M67 อยู่ที่ 156.37 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 1%YoY
กลยุทธ์การลงทุน ช่วงสั้นมอง SET จะยังแกว่งตัว Sideway Up แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะๆ จากปัจจัยภายนอกและจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยที่จะกลับเข้าสู่ขาลง (คลังและธปท. จะมีการพูดคุยกันในสัปดาห์นี้) และนโยบายผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทคาดจะยังหนุนการไหลเข้าของ Fund Flow โดยประเมินว่าหาก SET จะปรับขึ้นได้แรง ต้องเกิดจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ อิเล็กทรอนิกส์ และท่องเที่ยว ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีก่อนหน้านี้คาดจะยังให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของจีนและสหรัฐคาดจะยังชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
Top Picks
CPAXT: เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์รายหลักของกลุ่มพาณิชย์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่ 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น จากนั้นจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดของปีนี้ใน 4Q67 (เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ) ทั้งนี้ภายหลังควบรวมกิจการ synergy จะเริ่มมีให้เห็นใน 4Q67 และชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2568
DELTA: 2H67 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น HoH และ YoY จากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่ยังคงเติบโตดี อีกทั้งยังมี upside จากการพัฒนาและการขายผลิตภัณฑ์ Power Supply ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่พัฒนาโดย DELTA Thailand เอง ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องจ่ายค่า Technical Fee ให้กับทาง DELTA Taiwan ทั้งนี้แนะนำราคาเข้าซื้อวันนี้ไม่เกิน 110 บาท