"เงินติดล้อ"  แกร่งไตรมาส 2 กำไร 1,091 ลบ. เติบโต 17.7% พอร์ตสินเชื่อ-นายหน้าประกันขยายตัวต่อเนื่อง มุ่งสร้างการเติบโตในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิเเผย ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ยังคงสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกัน โดยมีมีรายได้รวม  5,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7%  

โดยพอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2567 อยู่ที่ 103,042 ล้านบาท ขยายตัว 18.1% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อรวม จากทั้งช่องทางสาขากว่า 1,723 แห่งทั่วประเทศ และช่องทางที่ไม่ใช่สาขา นอกจากนี้ “บัตรติดล้อ” และบริการ “โอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชี” ผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อ เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ  ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ระดับ 1.86% ต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม ขณะที่ NPL Coverage Ratio ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 227% สะท้อนถึงเงินสำรองที่เพียงพอ

สำหรับธุรกิจนายหน้าประกัน ยังคงเติบโตโดดเด่น โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2567 มียอดเบี้ยประกันวินาศภัยรวมมูลค่า 2,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ อารีเกเตอร์ (Areegator) ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้สมาชิกสามารถเข้าถึงระบบบริหารงานขายประกันที่หลากหลาย ครอบคลุมมากขึ้น และแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัล เฮ้กู๊ดดี้ (heygoody) ที่สร้างขึ้นเพื่อกลุ่มลูกค้าประกันรายย่อยที่ต้องการเปรียบเทียบและเลือกซื้อประกันด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ “ประกันติดโล่” ซึ่งปัจจุบันถือเป็นนายหน้าประกันเบอร์ 1 ในรูปแบบ Face to Face จากการมีนายหน้าประกันมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและมีใบอนุญาตถูกต้องมากกว่า 5,000 คน พร้อมให้คำแนะนำและเสนอขายประกันภัยให้กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ผ่านสาขาเงินติดล้อ 1,723 แห่ง ทั่วประเทศ

นายปิยะศักดิ์ ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในไตรมาสที่ 2/67 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการบริหารธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสำรองในระดับสูง ทั้งยังคงอัตราหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำที่ 2.5 เท่า นอกจากนี้ จะคุม NPL ให้ไม่เกิน 2%

อีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญความสำเร็จ เกิดจากการลงทุนและพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงประกันภัยได้เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ ยังคงพัฒนาและใช้เทคโนโลยี เพื่อต่อยอดธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันอย่างต่อเนื่อง ให้เติบโตทั้งในปัจจุบันและอนาคต

สำหรับแผนการปรับโครงสร้างองค์กรเป็น Holding ขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่าการแลกหุ้น หรือ Tender Offer ที่อัตรา 1:1 จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ สำหรับท่านนักลงทุนและผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ TIDLOR ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com