บมจ.ยูนิคพลาสติก อินดัสตรี ผู้ผลิตและจำหน่ายฟิล์มและบรรจุภัณฑ์พลาสติก ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 180 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในSET ระดมทุนเพื่อใช้ลงทุนในเครื่องจักร และธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ รองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ตั้งบล.บียอนด์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นางสาวออมสิน ศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) (BYD) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ยูนิคพลาสติก อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (UNIX) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ UNIX เพื่อยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.27 % ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ทั้งนี้ UNIX เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมฟิล์มและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีความชำนาญและประสบการณ์มากกว่า 30 ปี โดยบริษัทและบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจครบวงจรทั้งภาคผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าหลัก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ คือ1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์มและบรรจุภัณฑ์พลาสติก สามารถแยกออกเป็น 3 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย (1) ฟิล์มสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ลูกค้าที่สั่งซื้อฟิล์มชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจด้านอุปโภคและบริโภค กลุ่มลูกค้าที่ใช้สินค้าของบริษัทล้วนเป็นผู้ผลิตหรือจำหน่ายชั้นนำทั้งของประเทศไทยและระดับสากล (2) ฟิล์มและบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุของหนัก (Heavy Duty Shipping Bag) ลูกค้าที่สั่งซื้อฟิล์มชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจธุรกิจประเภทปิโตรเคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติกของผู้ผลิตชั้นนำของประเทศไทย และ (3) ฟิล์มและบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมทั่วไป (Industrial Product Film) ลูกค้าที่สั่งซื้อฟิล์มชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมทั่วไป อาทิ เครื่องไฟฟ้า เครื่องใช้ครัวเรือนแบบอุปโภคและบริโภค
และ 2.บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Product) บริษัทและบริษัทย่อยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกรายใหญ่ในประเทศไทย กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ ผู้ประกอบการผู้ค้าส่งและค้าปลีก รวมถึงร้านค้าขายของชำทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นถุงบรรจุภัณฑ์ สำหรับครัวเรือน เช่น ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงหูหิ้ว ถุงตัดตรง ถุงขยะ และถุงอื่นๆ เป็นต้น โดยสินค้าประเภทนี้ มีการผลิตและจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง ได้แก่ ตรากุญแจ ตรากุญแจใจ ตรากุญแจแดง ตรากุญแจเขียว ตรากุญแจม่วง ตรากุญแจน้ำตาล ตรากุญแจน้ำเงิน และตรามิตรภาพ
สำหรับผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา โดยในปี 2564 - 2566 และงวด 3 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟิล์มและบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้ง 3 ประเภท จำนวน 1,690.16 ล้านบาท 1,799.67 ล้านบาท 1,744.90 ล้านบาท และ 463.47 ล้านบาท คิดเป็น 56.93% 55.90% 57.89% และ 58.83% ของรายได้จากการขายรวมตามลำดับ และมีรายได้จากการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 1,179.62 ล้านบาท 1,279.06 ล้านบาท 1,210.27 ล้านบาท และ 318.06 ล้านบาท คิดเป็น 39.66% 39.58% 40.07% และ 40.27% ของรายได้จากการขายรวม ตามลำดับ
นายโสฬส ยอดมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิคพลาสติก อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (UNIX) กล่าวว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนดังนี้ 1. ลงทุนในเครื่องจักร เครื่องมืออุปกรณ์ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทและบริษัทย่อย 2. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย และ 3.ชำระคืนเงินกู้ยืมของบริษัทและบริษัทย่อย
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่น ๆ (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น
“เราเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมฟิล์ม และบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีความชำนาญและประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าและตลาดด้วยแนวคิดใหม่ๆ เช่น การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ (State of the Art) มุ่งส่งเสริมด้านการคิดค้น ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง (Research and Development) และสร้างแนวการทำงานฝ่ายผลิตที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) สามารถนำเสนอการลดต้นทุนให้กับลูกค้าผ่านแนวคิดการลดต้นทุนผ่านกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่มาทดแทน (Value Engineering) พร้อมดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้าน ESG ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลที่ดี เพื่อสร้างการเติบโต ควบคู่กับการสร้างสังคมสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน” นายโสฬส กล่าว