“สมโภชน์ อาหุนัย”บิ๊ก EA พร้อมทีมผู้บริหารเปิดอกเคลียร์ทุกประเด็นข่าวลือ! ยันฐานะทางการเงินแกร่ง มีกระแสเงินสดพร้อมคืนหนี้หุ้นกู้ตรงเวลา แจง Adder โรงไฟฟ้าหมด แต่ยังมีรายได้จากการขายไฟทุกเดือน มั่นใจธุรกิจเดินมาถูกทางอยู่ในเมกะเทรนด์โลก
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ร่วมชี้แจงกระแสข่าวลือและความกังวลเรื่องสถานะทางการเงินของบริษัท โดยเฉพาะเรื่องกระแสเงินลดลงจากค่า Adder ของโรงไฟฟ้าที่จะทยอยหมดลงนั้น โดยชี้แจงว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ ถึงแม้ว่า Adder จะหมดลง แต่ไม่ได้หมายความว่าในรายได้ส่วนนี้จะหายไปหรือกลายเป็นศูนย์ เพราะบริษัทยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฯตามปกติ ซึ่งบริษัทยังคงมีกระแสเงินสดเป็นรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ดังนั้นไม่จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการรุกขยายธุรกิจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับกับชำระคืนหนี้หุ้นกู้ด้วย โดยบริษัทมั่นใจว่าสามารถจ่ายดอกเบี้ยและชำระหนี้หุ้นกู้ได้ตรงตามกำหนดอย่างแน่นอน โดยยืนยันว่าต่อให้การลงทุนใน NEX หรือ BYD แล้วต้องหยุดกิจการ บริษัทก็ยังสามารถจ่ายคืนเงินกู้ได้ครบถ้วน
ขณะเดียวกันในส่วนของโรงงานแบตเตอรี่ของ EA ซึ่งหลายฝ่ายกังวลเรื่องความสามารถการแข่งขัน หลังจากราคาแบตฯ ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาบริษัทฯและพันธมิตร ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี และได้ทำการศึกษาพร้อมกับปรับปรุงเทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการผลิต จนขณะนี้ทำให้ต้นทุนปรับลดลงอยู่ใกล้เคียงระดับที่สามารถแข่งขันได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมแผนรองรับโดยการขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการหาโปรเจคใหม่เพื่อสร้างรายได้อื่นๆ เพิ่มเติม จากการขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศด้วย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะในจังหวัดภูเก็ตขนาด 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2569 ขณะเดียวกันยังได้มีการเซ็น PPP ตั้งศูนย์จัดการขยะบนพื้นที่เกาะล้าน โดยมีสัญญาระยะ 5 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานเชิงรุกที่มีอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน EA ยังมี Product Champions อาทิ การจับมือพันธมิตรแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF), ความร่วมมือกับ CRRC Dalian ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ผู้นำธุรกิจรถไฟความเร็วสูงของจีน ร่วมผลิตหัวรถจักรไฟฟ้า,เป็นผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (Commercial EV) และสถานีชาร์จของบริษัทได้รับการจดสิทธิบัตร ultra-fast charge ในระดับโลก มีหัวชาร์จมากกว่า 2,000 จุดครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ
ตลอดระยะเวลา 20 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา EA เป็นบริษัทที่ลงทุนในธุรกิจใหม่และเป็นกระแสโลกเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ เป็นเจ้าของเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่รวมถึงเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้านับตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่ Li-ion การประกอบ รถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถหัวลากไฟฟ้า เรือไฟฟ้ารวมถึงสถานีชาร์จที่มีครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ นับเป็นความภูมิใจที่เป็นบริษัทของคนไทยที่สามารถพิสูจน์ต่อสายตาชาวโลกว่า คนไทยทำได้
ทางด้านรถโดยสารไฟฟ้าของบริษัท ไทยสมายบัส จำนวน 2,000 คัน ได้ให้บริการมีผู้โดยสารใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉลี่ยจำนวนผู้โดยสารขณะนี้ประมาณ 350,000 คน/วัน เชื่อว่าภายใน 1 ปีจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้
ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ บริษัท NEX ก็ถือเป็นผู้นำตลาดของเมืองไทยที่มีคู่ค้า พันธมิตร ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ให้การยอมรับ และพร้อมที่จะมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและใช้บริการของ NEX และขอยืนยันว่า EA ได้เตรียมเงินสดไว้เพียงพอสำหรับการเพิ่มทุนของ NEX ในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้ NEX มีฐานทุนที่แข็งแรงสำหรับการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคตต่อไปได้
สำหรับหุ้นเพิ่มทุนที่ขาย PP ให้กับนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ได้รับการยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะใส่เงินเพิ่มทุน เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกับ EA
“นักอุตสาหกรรมต่างชาติพากันชื่นชมว่าที่ทำมาริเริ่มเป็นรายแรก โดยไม่ได้รับการสนับสนุนการภาครัฐยังทำมาได้ขนาดนี้ จึงอยากขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐให้เห็นความสำคัญต่อการส่งเสริมเพื่อให้ธุรกิจของคนไทยไปแข่งขันในเวทีโลกได้ รวมไปถึงการขจัดปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจให้หมดไปด้วย”
พร้อมทั้งยืนยันว่า ราคาหุ้น EA ในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง หรือ Valuation ของธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากธุรกิจทั้งกลุ่มบริษัท ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานทดแทน ที่เป็นเมกะเทรนด์