แนวโน้มตลาดวันนี้ (13 ก.พ.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET แกว่งในกรอบระหว่าง 1385-1394 จุดโดยนักลงทุนในตลาด รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด ทั้งนี้ ด้านแนวโน้มราคา หากมีการbreakout จากกรอบ จะมีความผันผวนขึ้น โดยแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1380 จุด ส่วนแนวต้านถัดไปอยู่ 1400 จุด ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้ จะกลับมาเป็นสัญญาณที่ดี
ประเด้นสำคัญ
• ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ เพื่อใช้กำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed ที่วางเป้าเงินเฟ้อไว้ที่ 2%
• EU กำลังพิจารณายกระดับข้อจำกัดทางด้านการค้าสำหรับบริษัทที่สนับสนุนรัสเซียซึ่งมี 3 แห่งตั้งอยู่ในจีน
• จีนและอินโดนีเซียตั้งเป้าลดการผลิตนิกเกิลลง 1 แสนตันในปีนี้ เพื่อลดปัญหาขาดทุนหลังราคานิกเกิลปรับลง พร้อมลดการผลิตเพิ่มอีกหากผู้ผลิตต้องการกระตุ้นราคาให้สูงขึ้นและลดอุปทานส่วนเกินออกจากตลาด
• วานนี้เรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงถูกขีปนาวุธยิงถล่ม 2 ครั้งซ้อน ขณะแล่นผ่านช่องแคบบับ อัล-มันดับ กลุ่มกบฏฮูตีอ้างความรับผิดชอบแล้ว สะท้อนสถานการณ์ในทะเลแดงยังตึงเครียดสูง
• อินเดียรายงานดัชนี CPI ม.ค. ที่ 5.10%YoY ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และชะลอตัวจาก5.69% ใน ธ.ค. แต่ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางอินเดียที่ 2-6%
• นายกฯ นัดประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ 15 ก.พ. หารือ 4 วาระสำคัญ หนังสือตอบกลับจากกฤษฎีกา ข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช. พร้อมตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด เร่งเดินหน้าโครงการแก้วิกฤต ตามนิยามรัฐบาล นอกจากนี้นายกฯ แถลง 2 เดือนแก้หนี้ทั้งระบบไกล่เกลี่ยสำเร็จ 1.2 หมื่นราย หนี้ลด 670 ลบ.จาก 1.4 แสนราย
• ตลท. เตรียมเพิ่มกลไกควบคุม short selling-program trading โดยจะเสนอผลการศึกษาเข้าที่ประชุมบอร์ดวันนี้
กลยุทธลงทุน ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่และอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทยที่จะทยอยออกมา นอกจากนั้นความเสี่ยงเงินเฟ้อของสหรัฐอาจลดลงน้อยกว่าคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับสะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด”
Top Picks
TOP 4Q66 คาดกำไรสุทธิ 2.7 พันลบ. ดีขึ้นมาก YoY หนุนปี 2566 กำไรสุทธิจะดีกว่าตลาดและเราคาด แนวโน้มกำไรปี 2567 ยังแข็งแกร่ง หนุนจาก market GRM และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ PX ที่ดี อีกทั้ง Valuation ปัจจุบัน PBV ปี 67 ที่ 0.6x (-1.6SD ค่าเฉลี่ย 5 ปี) คาด Div. Yield ราว 5%
BGRIM ได้ประโยชน์จาก SPP margin ที่คาดจะเพิ่มขึ้นหลังต้นทุนราคาก๊าซฯ ปรับลดลงทั้งจากราคา LNG และสัดส่วนก๊าซฯ จากอ่าวไทยที่เพิ่มขึ้นตามการผลิตของแหล่งเอราวัณ ช่วยหนุนผลประกอบการปี 2567 รวมถึงได้ผลบวกเชิงจิตวิทยาจากผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด