EXIM BANK สนับสนุน 'เบทาโกร' ขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ผ่านการปล่อยสินเชื่อระยะยาว 2,800 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องและขยายธุรกิจรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในไทยและตลาดอื่น ๆในภูมิภาคอาเซียน
นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนางสาวถนอมวงศ์ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารส่วนกลาง บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) (เบทาโกร) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จํานวน 2,800 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการขยายธุรกิจของเบทาโกร รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในไทยและตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีนางศิริวรรณอินทรกำธรชัย กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารการเงิน เบทาโกร และนางสาวอัจโนมา พรธารักษ์เจริญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลุ่มอุตสาหกรรม 1 EXIM BANK เป็นสักขีพยาน ณ อาคารเบทาโกร ทาวเวอร์ (นอร์ธปาร์ค) กรุงเทพฯ เมื่อวันที่31 สิงหาคม 2566
รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า การสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้เป็นสินเชื่อระยะยาวเพื่อสนับสนุนเบทาโกร ในฐานะผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตและเป็นพื้นฐานการพัฒนาในด้านอื่น ๆ ให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ปศุสัตว์ เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ อาหารแปรรูปที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดจำหน่ายอุปกรณ์และการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ภายใต้เจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเข้าถึงได้ในราคาที่เป็นธรรม สร้างงานและรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในเครือข่ายการผลิตและการจัดจำหน่ายทั่วทุกภูมิภาคของไทย รวมทั้งมีการขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา
“การสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK เป็นกลไกสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่มูลค่าธุรกิจส่งออก (Value-added Integrator) ภายใต้เป้าหมายการเป็น‘Green Development Bank’ เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของชุมชน ประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียนตลอดจนโลกโดยรวม สร้างโอกาสการพัฒนาของภาคเกษตรกรรม เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม และการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน” นางวรางคณา กล่าว