FSMART ไตรมาส 2 พอร์ตสินเชื่อโตเกือบเท่าตัว ดันกำไรเพิ่ม 36.4% รายได้กว่า 550 ล้านบาท ส่งผลงวด 6 เดือนกำไรรวม 194.82 ล้านบาท เคาะปันผล หุ้นละ 0.23 บาท ขึ้น XD 27 ส.ค.นี้

นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “FSMART” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567  มีรายได้รวม 550.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% และกำไร 101.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 74.32 ล้านบาท 
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 1,101.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และกำไรสุทธิ 194.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.23 บาท ขึ้น XD 27 ส.ค.นี้

การเติบโตของรายได้และกำไร มาจากกลุ่มธุรกิจการเงินและสินเชื่อครบวงจรที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน ผ่านทางแอปพลิเคชั่น ซึ่งมียอดเพิ่มขึ้น 96.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน อีกทั้ง ธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้บุญเติมยังมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนรายการฝาก-โอนเงินผ่านตู้บุญเติมรวม 3.47 ล้านรายการ จากการเป็นตัวแทน 8 ธนาคาร และสามารถถอนเงินสดผ่านตู้บุญเติมได้ 2 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์   

ขณะที่ธุรกิจเติมเงินและรับชำระเงินอัตโนมัติที่ถือเป็นรายได้หลัก มีรายได้รวม 519.11 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนกลุ่มธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า บริษัทรับรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ในสัดส่วน 26.71% โดยไตรมาส 2/2567 มีจำนวนตู้เต่าบิน 6,596 ตู้ทั่วประเทศ ส่วนครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า GINKA Change Point ติดตั้งไปแล้วมากกว่า 152 จุดชาร์จ ที่แม้ว่าปัจจุบันรายได้ยังไม่ชัดเจน 

สำหรับการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2567 บริษัทมุ่งมั่นบริหารงานให้มีรายได้เพิ่มในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยวางแผนเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อตู้ (ARPU) ผ่านตู้บุญเติมมากกว่า 122,000 จุด พร้อมขยายช่องทางเคาน์เตอร์แคชเชียร์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการใช้งานของลูกค้าอีกทางหนึ่งด้วย

สำหรับธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ยังคงเดินหน้าขยายจุดติดตั้ง GINKA Charge point ให้ได้ 1,000 จุดภายใน 2 ปี และเตรียมเปิดสถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร (EV Station) ภายในปีนี้ รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น “เต่าบิน” ที่มีแผนขยายเพิ่มเป็น 7,500-8,000 จุด และเพิ่มเมนูใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความถี่ในการซื้อให้เพิ่มมากขึ้น 

จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก และแผนงานครึ่งปีหลังที่กล่าวมาทั้งหมดเชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตโดยรวมเพิ่มขึ้น 10-20% ตามเป้าหมายที่วางไว้