บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว ซีอีโอ “ภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล” ระบุ พร้อมเดินหน้าขายไอพีโอ 200 ล้านหุ้น คาดจะเข้าSET ช่วงไตรมาส 1 นำเงินระดมทุนรองรับการเข้าประมูลโครงการขนาดใหญ่ และการทำ M&A เสริมแกร่ง ชูจุดเด่นผู้นำด้านผู้นำเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร ที่อนาคตเติบโตสูง
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SPREME เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของ SPREME จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เพื่อเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ประมาณไตรมาส 1/2567
ทั้งนี้ SPREME ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง และจัดจำหน่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่าย อย่างครบวงจร (SI : System Integrator) พร้อมทั้งให้บริการซ่อมแซม บำรุงรักษา และการให้เช่าอุปกรณ์ โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย (ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้ง), 2. ธุรกิจให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (ธุรกิจ MA) และ 3. ธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SPREME กล่าวว่า วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนรองรับการประมูลโครงการที่มีขนาดใหญ่, เพื่อลงทุนซื้อกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ (M&A) และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และสนับสนุนการเติบโตที่มั่นคงในอนาคต
“บริษัทฯ เชื่อว่าการตัดสินใจระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของ SPREME สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเมื่อรวมกับผลประกอบการที่ขยายตัวต่อเนื่องทุกปี รวมถึงการเป็นผู้นำในธุรกิจ SI ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง จะยิ่งทำให้ผลประกอบการ รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของ SPREME มีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น” นายภานุวัฒน์ กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,385.17 ล้านบาท, 901.64 ล้านบาท และ 1,037.50 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 123.52 ล้านบาท, 110.53 ล้านบาท และ 99.24 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ ร้อยละ 8.92, ร้อยละ 12.26 และร้อยละ 9.57
ส่วนงวดบัญชี 9 เดือนปี 2566 สิ้นสุด 30 กันยายน 2566 มีรายได้รวม 1,013.56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 122.69 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ ร้อยละ 12.10
ปัจจุบัน SPREME มีทุนจดทะเบียน จำนวน 370 ล้านบาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว จำนวน 280 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 560 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทและกฎหมาย