Market

เอสซีจี‘ ปรับเป้ารายได้ปี 67 โตเหลือ 3% หลัง Q3/67 กำไรหด 10%  คาดโค้งท้ายไตรมาส  4 อ่อนตัว งัดแผนแก้เกม 4 ทางรอดดันโตปีหน้า
31 ต.ค. 2567

’เอสซีจี‘ ปรับเป้ารายได้ปี 67 โตเหลือ 3% หลัง Q3/67 กำไรหด 10% ชี้ปิโตรเคมีขสลงยาว ขาดทุนทั้งค่าบาทแข็ง -สต็อก ส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมวูบ คาด โค้งท้ายไตรมาส  4 อ่อนตัว ปรับเป้ารายได้ทั้งปีโต 3% งัดแผนแก้วิกฤติ 4 ทางรอด "ลดต้นทุน-ลดเงินทุนหมุนเวียน-เลิกธุรกิจที่ไม่ทำกำไร-ขายสินทรัพย์" หวังเพิ่มสภาพคล่อง-เน้นเสถียรภาพ รักษา EBITDA หวังปี 68โตดีกว่าปีนี้

 

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี  หรือหุ้น SCC  เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการในปี 2567 ว่า  ในไตรมาส 4 นี้ คาดว่า กำไรรวมจะลดลงจากไตรมาส 3 ที่ทีกำไร 721 ล้านบาท เนื่องจากตอนนี้ ยังไม่เห็นกำไรจากรายการพิเศษ จึงอาจจะเป็นไตรมาสที่มาจากผลการดำเนินงานล้วนๆที่สุด  และหากสถานการณ์เศรษฐกิจรุมเร้าทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะในจีนที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังอ่อนแอ  ทำให้ขาดดีมานด์วัสดุก่อสร้างต่างๆ ท่ามกลางตลาดโลกที่ยังมีการแข่งขันตัดราคาอยู่  ซึ่งจะส่งผลกระทบรายได้และกำไรในไตรมาสุดท้านปีนี้ และจะทำให้ภาพรวมทั้งปี 2567 รายได้เติบโต 3%จากปี 2566  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทได้มีแผนแก้เกมในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าในปีหน้า 2568  จะเห็นตลาดจีนมีดีมานด์กลับมาอีกครั้งหลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ และผลจากการแก้เกมทั้งลดต้นทุนและแผนการลงทุนที่ลดเหลือ 1 หมื่นล้านบาทเน้นลงทุนเฉพาะโครงการที่สำคัญ และจะไม่กู้หนี้เพิ่ม ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการปี 2568 เติบโตได้ดีกว่าปีนี้

 

ก่อนหน้านี้ เอสซีจี ตั้งเป้าหมายปี 2567 ยอดขายเติบโต 20%

 

“ในปีหน้า เราพยายามควบคุมไม่ให้มีหนี้เพิ่มและการลงทุนจะเน้นใช้เงินสดหมุนเวียนที่มีอยู่ อาจจะมีปัจจัยตัวแปรอื่นๆ แตาแผนแก้เกมนี้ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เรารอดได้ เอสซีจีคาดว่ารายได้ของปี 2567 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3% จากปีก่อน เพราะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนรุนแรง วัฏจักรปิโตรเคมีทั่วโลกอ่อนตัวลากยาวสงครามตะวันออกกลาง สินค้าจากจีนเข้ามาแข่งขันภายในประเทศมากขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาทผันผวน นับเป็นความท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจและมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อยาวนาน เอสซีจีจึงมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง และรัดกุมยิ่งขึ้น โดย
ตั้งเป้า 1) มุ่งลดต้นทุนภาพรวมองค์กร 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 2) ลดเงินทุนหมุนเวียนลง 10,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1 ปี 2568  3) ยกเลิกกิจการที่ไม่ทำกำไร เช่น SCG Express และธุรกิจด้านดิจิทัลเทคโนโลยี OITOLABS ในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังมีกิจการที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณายกเลิก เเละ 4) ขายสินทรัพย์ (Asset Divestment) เพิ่มความคล่องตัวและมุ่งเน้นรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ประกอบกับยกระดับประสิทธิภาพการผลิต รักษา EBITDA ให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ต่อเนื่อง อาทิ เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทนโรงงานปูนซีเมนต์ในไทยร้อยละ 50 ภายในปีนี้ การใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ (Automation) ผลิตกระเบื้อง แม่นยำ รวดเร็ว ลดวัสดุเหลือใช้เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เอสซีจีมีการลงทุนในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย” นายธรรมศักดิ์กล่าว

 

ทิศทางเอสซีจีในระยะยาว เรื่องกรีน Inclusive Green Growth ยังเป็นโอกาสและความได้เปรียบทางธุรกิจ ดังนั้นจึงเร่งลงทุนโครงการอีเทนที่ LSP ลดต้นทุนวัตถุดิบ ด้วยงบลงทุน 700 ล้านดอลลาร์ (2.3 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั่วโลก ทั้งยังช่วยลดคาร์บอนไดออกไซต์ในกระบวนการผลิต พร้อมดันนวัตกรรมกรีนมูลค่าเพิ่มสูง อาทิ ปูนคาร์บอนต่ำ เจนเนอเรชัน 2 ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง มีสัดส่วนการใช้ปูนคาร์บอนต่ำทดแทนแบบเดิม 86% พลาสติกรักษ์โลก SCGC GREEN POLYMER TM เติบโตต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ ผลประกอบการ 9 เดือนปี 2567 เอสซีจี มีรายได้ 380,660 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน จากปริมาณการขายของเอสซีจี เคมิคอลส์ และเอสซีจีพี โดย EBITDA (กำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย โดยรวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม) 38,768 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไร 6,854 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 75 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากค่าใช้จ่ายการเดินเครื่องโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) ส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลงขณะที่กำไรไม่รวมรายการพิเศษ ลดลงร้อยละ 46 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับไตรมาส 3 ของปี 2567 มีรายได้ 128,199 ล้านบาท โดย EBITDA 9,879 ล้านบาท กำไร 721 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 81 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า  การปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง ประกอบกับไตรมาสก่อนเป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น  

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com