Market

InnovestX คาด Fund flow ช่วยหนุน SET ลุ้นทะลุ high เดิม
13 ก.ย. 2567

แนวโน้มตลาดวันนี้ (13 ก.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์  คาด SET ปรับขึ้นได้ หลังดัชนี PPI สหรัฐ สูงกว่าคาด สร้างโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยแบบเร่งตัว ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อน และบาทแข็ง เป็นปัจจัยหนุนด้าน fund flow ที่จะไหลเข้ามา รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีมีโอกาสขึ้นทะลุผ่านจุดสูงเดิมบริเวณ 1435 จุด และมีแนวต้านถัดไปที่ 1440 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1415 และ 1405 จุด คาดยังรองรับได้

 

ประเด็นสำคัญ

• ม.หอการค้าไทย ประเมินผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ รวมเหตุการณ์ล่าสุดที่เชียงราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจทำให้คาดมูลค่าความเสียหายอาจเพิ่มขึ้นเป็นระดับหมื่นล้านบาทซึ่งได้รวมผลกระทบที่เกิดจากการเสียโอกาสในด้านการท่องเที่ยวไว้แล้ว

 

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.67 อยู่ที่ 56.6 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 13 เดือน สาเหตุจากผู้บริโภคยังกังวลภาวะเศรษฐกิจไทย นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจน ตลอดจนปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อ 

 

• IMF ระบุว่าเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังความเสี่ยงในช่วงขาขึ้นของเงินเฟ้อได้ลดน้อยลงแล้วและคาดเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ 

 

• สหรัฐเผยดัชนี Headline PPI ส.ค. ปรับตัวขึ้น 1.7%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด และดัชนี PPI ทั่วไป ส.ค. ปรับตัวขึ้น 0.2%YoY สูงกว่าตลาดคาด ขณะที่จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 2 พันราย เป็น 2.3 แสนราย สูงกว่าตลาดคาด

 

• ECB มีมติปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 3.50% ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 3.90% และดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ 3.65% พร้อมปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้และปีหน้าลงเหลือ 0.8% และ 1.3% ตามลำดับ

 

• รมว. คลังเผยรัฐบาลจะดำเนินการจ่ายเงินสดหมื่นบาทรอบแรกแก่กลุ่มเปราะบางประมาณวันที่ 25-26 ก.ย. ส่วนเฟสสองสำหรับ 30 ล้านคนจะขอพิจารณาเบื้องถึงความพร้อมก่อนเนื่องจากงบประมาณมีจำกัด และต้องให้ความสำคัญต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจก่อน

 

กลยุทธ์การลงทุน แม้ช่วงสั้นมอง SET ยังมีโมเมนตัมที่ดีจากคลายกังวลเสถียรภาพทางการเมืองไทยและคาดหวังการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปลาย 3Q-4Q67 แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา SET Index ปรับขึ้นแล้วกว่า 10%MoM จึงอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวต้าน 1450-1460 จุด โดยมองเม็ดเงินลงทุนจะสลับไหลออกจากกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ สื่อสาร ไปเข้าสู่กลุ่มปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า อสังหา และการแพทย์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงและคาดจะนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ FED และ ECB กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”  

 

Top Picks

CPALL: กำไร 2H67 คาดจะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ โดย 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY และ QoQ แรงหนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจ CVS และ CPAXT ส่วน 4Q67 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2567 จากเข้าสู่ High Season อีกทั้ง valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PER 67F ระดับ 25 เท่า (-2SD)

 

GPSC: มองมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากราคาก๊าซที่ปรับตัวลง ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 4.58 พันลบ. เติบโต 33.8%YoY และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 16.3%YoY ในปี 2568 ปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังมีกำลังการผลิตติดตั้งที่สูงขึ้นในอินเดียและไต้หวัน  

 

 

 

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com