“KCCAMC” เดินหน้าลงทุนหนี้ NPL ต่อเนื่อง ไตรมาสแรกรับเข้ามาใหม่ 51 ล้าน หนุนพอร์ตลงทุนแตะ 1,840 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานอวดกำไรสุทธิต่อเนื่อง ไตรมาส 1 ปีนี้กำไร 17.36 ล้านบาท กระแสเงินรับไหลเข้าต่อเนื่องงวดนี้รับ 105 ล้านบาท และมีเงินรับรอที่กรมบังคับคดีอีก 400 ล้าน
นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ KCCAMC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยว่า เดือนพฤษภาคม 2567 บริษัทครบรอบ 2 ปีของการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งผลดำเนินธุรกิจเติบโตมีกำไรติดต่อกันทุกไตรมาส บริษัทนำเงินจากการขายไอพีโอและการออกหุ้นกู้มาลงทุนซื้อ NPL ต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกปีนี้ ได้รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพใหม่เข้ามาจำนวน 51 ล้านบาท หนุนให้พอร์ตเงินลงทุนหนี้ NPL ณ สิ้นไตรมาสแรกขึ้นมาอยู่ที่ 1,840 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 17.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 17.30 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจาก 1.รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ลูกหนี้พอร์ตใหม่ 2.รายได้อื่นลดลง 13 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสก่อนมีรายได้จากการรับบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และ 3.ไตรมาสนี้มีการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตฯ ลดลงจากไตรมาสก่อน 12 ล้านบาท
“มีประเด็นสำคัญเกิดขึ้น ดังนี้ คือ บริษัทฯ รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพใหม่ จำนวน 51 ล้านบาท เป็นลูกหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อธุรกิจ โดยลูกหนี้ทั้งหมดเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกัน บริษัทฯ มีเงินรับจำนวน 93 ล้านบาท จากการรับชำระหนี้จากลูกหนี้ และการขายทรัพย์สินรอการขาย หนุนให้ทั้งไตรมาส บริษัทมีเงินรับอยู่ที่ 105 ล้านบาท และยังมีเงินได้ใหม่จากค่าบริการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ 13 ล้านบาท คิดเป็น 12% ของเงินรับทั้งหมด รวมถึงบริษัทยังมีเงินรับรอที่กรมบังคับคดีอีก 400 ล้านบาท ที่บริษัทจะเร่งดำเนินการต่อไป” นายทวี กล่าว
นายทวี กล่าวว่า ไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ 43 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่กว่า96% หรือ 41 ล้านบาท มาจากรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการ ส่วนที่เหลือเป็นกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย และรายได้อื่น
“รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาจาก 3 ส่วน คือ 1.รายได้ดอกเบี้ยรับจาก NPL สุทธิจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 2.กำไรสุทธิจากการรับชำระหนี้ และ3.กำไรจากการขายเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KCCAMC กล่าว
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ มีส่วนของเจ้าของเท่ากับ 1,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2566 จำนวน 17 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในงวด
ขณะที่ความคืบหน้าในการทรานฟอร์มเป็นโฮลดิ้ง ตามแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้นและจัดการ ตอนนี้บริษัทได้เปิดให้ผู้ถือหุ้น ดำเนินการแลกหุ้น บริหารสินทรัพย์ ไนทคลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)(KCCAMC) เป็นหุ้นของบริษัท ไนทคลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) “บริษัทโฮลดิ้ง” หรือ “KCC” ในอัตราการแลกหุ้น 1:1 ช่วงระหว่างวันที่ 26 เมษายน 2567-12 มิถุนายน 2567